การประเมินมีความหมายอย่างไรกับลูกของคุณ ตอนที่ 1 (01/03/2011)
อะไรคือการประเมิน
การประเมินเป็นกระบวนการซึ่งช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และที่โรงเรียนระบุได้ ว่า เด็กคนไหนมีความบกพร่องบ้าง ภายใต้พระราชบัญญัติการศึกษาเพื่อคนพิการระบุว่า เด็กที่มีความบกพร่องคือเด็กที่เหมาะสำหรับการศึกษาพิเศษและบริการที่เกี่ยว ข้อง เด็กไม่สามารถได้รับการศึกษาพิเศษได้ถ้าปราศจากการประเมิน ความบกพร่องที่ถูกสงสัยในทุกๆ ด้านจะได้รับการประเมินอย่างสมบูรณ์ กระบวนการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งเกี่ยวกับการพัฒนาและปฏิบัติตนของ เด็ก โดยมองที่ความแข็งแกร่งและความต้องการของเด็ก อาจเป็นการสืบสวนเรื่องการรับรู้ วิชาการ ความประพฤติ ทางร่างกายและองค์ประกอบที่เกี่ยวกับการพัฒนาอื่นๆ การประเมินรวมทั้งข้อมูลที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่ของเด็ก ข้อมูลที่ถูกรวบรวมในการประเมินจะถูกใช้เพื่อ
- ระบุว่าเด็กมีความบกพร่องหรือไม่
- ระบุความต้องการทางการศึกษา
ทำไมจึงมีการประเมิน
การประเมินเพื่อจุดประสงค์หลายประการคือ
1. การคัดแยก (Identification) จะคัดแยกเด็กๆ ซึ่งมีความล่าช้าหรือบกพร่องและต้องการการศึกษาพิเศษและบริการที่เกี่ยวข้อง
2. การเข้ากฎเกณฑ์ (Eligibility) จะตัดสินว่าเด็กคนนั้นเป็น “เด็กที่บกพร่อง” หรือไม่ ภายใต้คำนิยามของพระราชบัญญัติการศึกษาเพื่อคนพิการ “เด็กที่บกพร่อง” หมายถึงเด็กที่มีความต้องการการศึกษาพิเศษและบริการที่เกี่ยวข้อง
3. การวางแผนการจัดโปรแกรมการศึกษาส่วนบุคคล (Individualized Education Program หรือ IEP) เป็นการให้ข้อมูลซึ่งจะช่วยคุณพ่อคุณแม่และคุณครูที่โรงเรียนพัฒนา IEP ที่เหมาะสมสำหรับเด็กคนนั้นๆ
4. กลยุทธ์ในการสอน จะช่วยกำหนดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้
5. การวัดความก้าวหน้า ช่วยวางเส้นระดับการแสดงผลการเรียนรู้ เพื่อวัดความก้าวหน้าทางการศึกษาของเด็ก เมื่อการประเมินสมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่ต้องได้รับสำเนารายงานการประเมินและเอกสารซึ่งแสดงว่า เด็กคนนี้มีความเหมาะสมที่เข้ากฎเกณฑ์อย่างไร แม้ว่าผลการประเมินแสดงว่าเด็กคนนั้นไม่ต้องการการศึกษาพิเศษและบริการที่ เกี่ยวข้อง ข้อมูลก็จะยังถูกใช้เพื่อตัดสินว่า การชดเชยในห้องเรียนประเภทใดที่เด็กอาจจะต้องการในโปรแกรมการศึกษาปกติ
การวัดประเภทใดที่จะใช้ประเมินเด็ก
การทดสอบมากกว่าหนึ่งครั้งอาจจะต้องถูกใช้ตัดสินว่าเด็กมีความบกพร่อง หรือไม่ หรือเพื่อตัดสินความต้องการทางการศึกษา การทดสอบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ การสังเกต ข้อมูลจากคุณพ่อคุณแม่และการวัดอย่างอื่นๆ จะช่วยโรงเรียนและคุณพ่อคุณแม่ตัดสินถึงความต้องการการศึกษาพิเศษและบริการ ที่เกี่ยวข้อง
การทดสอบวัดความสามารถของเด็กหรือผลการเรียนรู้โดยการให้คะแนนการโต้ตอบ ของเด็กต่อชุดคำถามหรืองานที่มอบให้ มันเหมือนการถ่ายภาพอย่างรวดเร็วถึงผลการแสดงออกในวันที่จำเพาะ ข้อมูลการทดสอบที่เป็นทางการเป็นประโยชน์ในการใช้คาดเดาว่าเด็กคนนั้นจะทำ ได้ดีดังถูกคาดหวังในโรงเรียนเพียงไร ทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการในการเรียนรู้เฉพาะตัวอีกด้วย
โรงเรียนจะดำเนินการประเมินผลเฉพาะส่วนบุคคลซึ่งใช้ข้อมูลจากหลายๆ แหล่งรวมทั้งข้อมูลที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ การทดสอบเป็นเรื่องสำคัญ และการประเมินยังรวมข้อมูลด้านอื่นๆ ด้วยเช่น
- ข้อมูลทางการแพทย์
- การเปรียบเทียบความก้าวหน้าของเด็กกับการพัฒนาของเด็กตามแบบฉบับทั่วไป
- การสังเกตการทำหน้าที่ของเด็กในโรงเรียน ที่บ้านหรือในชุมชน
- การสัมภาษณ์กับคุณพ่อคุณแม่และทีมงานของโรงเรียน
คุณพ่อคุณแม่มีข้อมูลมากมายเรื่องการเจริญเติบโตและความต้องการของลูกของ ตน เมื่อรวบรวมเข้ากับการทดสอบและวัสดุการประเมินอื่นๆ ข้อมูลนี้จะถูกใช้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
มีการทดสอบประเภทใดบ้างที่ถูกใช้
มีการทดสอบแบบต่างๆ ที่โรงเรียนใช้เพื่อวัดความก้าวหน้า ต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ที่สำคัญสองสามคำซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะจำเป็นต้องรู้
การทดสอบเป็นกลุ่ม (Group tests)
การทดสอบการประสบผลสำเร็จในกลุ่มอาจจะไม่ใช้เพื่อกำหนดความเหมาะสมสำหรับ การศึกษาพิเศษ การทดสอบนี้จะให้ข้อมูลว่า เด็กคนนั้นมีผลการแสดงออกอย่างไรเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆที่อายุและระดับ ชั้นเรียนเดียวกัน แต่จะไม่ระบุถึงจุดแข็งและความต้องการของนักเรียนแต่ละคน
การทดสอบส่วนบุคคล (Individual tests)
การทดสอบส่วนบุคคลกับเด็กแต่ละคนจะมีประโยชน์ในการตัดสินจุดแข็งและความต้องการในการเรียนรู้เป็นการเฉพาะแต่ละคน
การประเมินผลที่ใช้หลักสูตรเป็นฐาน (Curriculum-based assessments หรือ CBAs) หรือการวัดที่ใช้หลักสูตรเป็นฐาน (Curriculum-based measurements หรือ CBMs)
การทดสอบเหล่านี้ถูกพัฒนาโดยทีมของโรงเรียนเพื่อจะเพื่อตรวจสอบความก้าว หน้าที่เด็กคนนั้นทำในการเรียนรู้วัสดุเฉพาะซึ่งคุณครูได้แสดงให้เห็นในชั้น เรียน การทดสอบเหล่านี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณครูและคุณ พ่อคุณแม่ในการตัดสินว่า มีการเรียนรู้เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ใช้การประเมินนี้ตามลำพังเพื่อตัดสินว่า เด็กคนนั้นเข้าเกณฑ์สำหรับการศึกษาพิเศษหรือไม่
การทดสอบมาตรฐาน (Standardized tests)
การทดสอบมาตรฐานถูกพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญสำหรับใช้กับกลุ่มนักเรียนกลุ่ม ใหญ่ การทดสอบทำตามมาตรฐานเฉพาะ การทดสอบเหล่านี้ประเมินว่า เด็กคนนั้นๆ ได้เรียนรู้อะไรหรือประสบผลอย่างไร หรือใช้คาดเดาว่า เด็กคนนั้นๆ อาจจะมีความสามารถทำอะไรได้ในอนาคต
การทดสอบที่อ้างอิงมาตรฐานฉลี่ย (Norm-referenced tests)
การทดสอบที่อ้างอิงมาตรฐานเฉลี่ยเป็นการทดสอบมาตรฐานซึ่งเปรียบเทียบผล การแสดงออกของเด็กคนนั้นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน มันจะแสดงว่า เด็กคนนั้นจะยืนอยู่ตรงไหนเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ที่ระดับอายุและชั้นเรียนเดียวกัน
การทดสอบที่อ้างอิงมาตรฐานที่วินิจฉัย (Criterion-referenced tests)
การทดสอบเหล่านี้วัดว่า เด็กคนนั้นสามารถทำอะไรได้บ้างหรือมีทักษะพิเศษที่เด็กคนนี้เชี่ยวชาญ การทดสอบที่อ้างอิงมาตรฐานที่วินิจฉัยจะไม่ประเมินที่ยืนของเด็กในกลุ่ม แต่มองที่การวัดการแสดงออกของเด็กกับระดับมาตรฐานที่วินิจฉัย การทดสอบนี้จะเปรียบเทียบการแสดงออกปัจจุบันกับการแสดงออกในอดีตเป็นวิธีใน การวัดความก้าวหน้า
ใช้มาตรฐานอะไรในการเลือกการทดสอบ
โรงเรียนมองที่หลายๆ องค์ประกอบเมื่อจะเลือกการทดสอบมาใช้ในการประเมิน ดังตัวอย่างสองสามองค์ประกอบนี้:
- การทดสอบต้องเชื่อถือได้ การทดสอบหนึ่งจะเชื่อถือได้ถ้ามันให้ผลที่คล้ายกันเมื่อดำเนินการในเวลาที่ แตกต่างหรือผู้ประเมินที่แตกต่าง คุณพ่อคุณแม่อาจร้องขอความเชื่อถือได้ของการทดสอบที่ให้เด็ก ถ้าข้อมูลนี้ไม่ได้มีการอภิปรายไปพร้อมกับผลการทดสอบ
- การทดสอบต้องถูกต้อง การทดสอบต้องถูกต้องถ้ามันวัดสิ่งที่มันถูกออกแบบให้วัด
- การทดสอบต้องสะท้อนสมรรถภาพและความสำเร็จของเด็กอย่างถี่ถ้วน การทดสอบมาตรฐาน (Standardized tests) ต้องถูกต้องสำหรับจุดประสงค์การทดสอบเป็นการ เฉพาะ การทดสอบยังต้องทำโดยบุคคลที่มีความรู้และถูกฝึกมา
- การทดสอบและวัสดุการประเมินอื่นๆ ต้องไม่แบ่งแยกพื้นฐานเรื่องเชื้อชาติและวัฒนธรรม การทดสอบต้องดำเนินในภาษาประจำถิ่นของเด็กหรือรูปแบบการสื่อสารแบบอื่นๆ ยกเว้นแต่ว่า เป็นที่เห็นชัดว่า ทำอย่างนั้นไม่ได้
องค์ประกอบอื่นๆ เช่น ความตั้งอกตั้งใจของเด็ก แรงจูงใจ ความกังวล และความเข้าใจในทิศทางของการทดสอบสามารถจะมีผลต่อคะแนน
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
โดย พรรษชล ศรีอิสราพร