ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กระบวนการค้นพบ : การค้นหาว่าทำไมลูกของคุณจึงดิ้นรน 20/12/2010

โดย คาเรน เจ โฟลี (2002)

คาเรน เจ โฟลี ทำหน้าที่ผู้ปกครองตลอดสิบปีที่ผ่านมา  เธอยังเป็นนักเขียนและทำวิจัยระดับปริญญาเอกด้านการติดต่อสื่อสาร  หนังสือบันทึกความทรงจำของเธอในชื่อ “ เหมือนเสียงที่ผ่านน้ำ: การเดินทางของแม่ผ่านความบกพร่องในกระบวนการได้ยิน”  (Like Sound Through Water: A Mother’s Journey Through Auditory Processing Disorder) ได้บรรยายถึงกระบวนการค้นพบตลอดสามปีของเธอ  ระหว่างช่วงเวลานั้น  เธอค้นหาคำตอบต่อเรื่องความเชื่องช้าอย่างหนักของลูกชายด้านการใช้คำพูดและ ความเข้าใจ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการติดต่อผู้เขียน ลองดูที่เว็บไซต์ www.karenfoli.com

เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา  ผู้ปกครองคนหนึ่งได้มาบรรยายความรู้สึกให้ฉันฟัง  เธอบอกว่า  ตอนที่ลูกสาวเกิด  เธอเชื่อว่าลูกของเธอมีสุขภาพดีและเป็นปกติ  แต่เมื่อหลายปีผ่านไป  เธอค้นพบความล่าช้า  ความยุ่งยากและการดิ้นรนของลูกของเธอ  เธอสารภาพว่า  มันคงจะง่ายกว่านี้ถ้าเธอรู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติตั้งแต่ลูกเกิด  สิ่งที่ดำเนินไปนั้น เธอรู้สึกว่าโชคชะตาได้เล่นกลกับเธอเข้าให้แล้ว

เธอถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกในฐานะผู้ปกครองของเด็กที่กำลังดิ้นรน เกิดความฉงนสนเท่ห์และความสับสนขึ้นเมื่อคุณพยายามจะคิดว่าเกิดอะไรขึ้น  กลัวถึงความไม่รู้  รู้สึกผิดถึงสิ่งที่คุณทำและคุณไม่ได้ทำจะเป็นสาเหตุของความยุ่งยาก  เศร้าใจที่ลูกต้องพบกับประสบการณ์เช่นนี้  รู้สึกขอบคุณที่ลูกสามารถสอนคุณมากมายและหยิบยื่นความปิติยินดีที่แท้จริง ให้  บางทีปฏิเสธในการเชื่อเล็กน้อยผสมกับการมีความหวังที่เปราะบาง  โกรธที่ผลกระทบต่อชีวิตของคุณและความไร้ประสิทธิภาพของระบบ  และในที่สุดก็สูญสิ้นเรี่ยวแรง

ความเข้มข้นและขอบเขตความรู้สึกของผู้ปกครองที่มีลูกกำลังดิ้นรนจะสร้าง อารมณ์ที่หลากหลายต่อเนื่องกัน  หนึ่งในอารมณ์เหล่านี้คือ ความระทมทุกข์  อะไรที่พ่อแม่เศร้าโศกกันแน่  สังคมบอกเราว่า ลูกของเราควรจะพูดที่อายุเท่านั้นเท่านี้  สามารถเรียนรู้ที่จะอ่านหนังสือในช่วงเวลาเท่านั้นเท่านี้  และบรรลุความสำเร็จในเรื่องต่างๆ เมื่อเรียนอยู่เกรดแรก  สังคมบรรยายกับเราว่า  ลูกจะเล่นกีฬาและผ่านการทดอบมาตรฐานโดยปราศจากความช่วยเหลือพิเศษ  มันแสดงให้เราเห็นภาพของเด็กผู้ชายที่เรียนรู้ที่จะอ่านหนังสือในระดับ อนุบาล  และบอกเราว่าเด็กผู้หญิงเรียนรู้ที่จะพูดเมื่อถึงเวลาที่เธออายุสองขวบ

การตระหนักว่า ลูกของคุณไม่ได้บรรลุสิ่งเหล่านั้นของสิ่งที่เรียกว่า “ความฝันวัยเด็ก” หรือความคิดในสิ่งที่เราต้องการหรือประมาณว่าลูกของเราควรจะเป็น  สิ่งที่เราต้องการให้เด็กทุกๆ คนควรจะเป็น

เมื่อความยุ่งยากของลูกปรากฎขึ้นในช่วงปีแรกๆ  พ่อแม่ถูกกระทบทันทีทันใด  โดยปกติแล้วเป็นความรู้สึกสูญเสียอย่างอธิบายไม่ได้  แต่เมื่อจิตใจของเด็กกำลังดิ้นรน  ความยุ่งยากนั้นอาจจะไม่ชัดเจนนัก  และความจริงที่รุนแรงก็คือว่า  มันอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีที่จะเข้าใจอย่างแท้จริงว่า  อะไรคือสาเหตุที่ซ่อนอยู่ของความยุ่งยาก

แต่ไม่ว่าการดิ้นรนจะซ่อนอยู่หรือปรากฎชัด  ลูกที่เรากอด เด็กที่นั่งถัดจากเราที่โต๊ะครัวไม่ได้เปลี่ยนไปจากสิ่งที่เขาหรือเธอเป็น เสมอ  ความยุ่งยากอยู่ที่นั่น  เราเพียงแต่ไม่รู้เกี่ยวกับมัน  สิ่งที่เรามีคือ  ลูกของเราจริงๆ ลูกซึ่งเรารักและต้องการความช่วยเหลือ  ลูกซึ่งเรารักอย่างท่วมท้นและผลักดันเราไปสู่ขีดจำกัดของความอดทนและท้าทาย คำจำกัดความของความรักของเรา  สำหรับฉันแล้ว  เขาคือลูกซึ่งสอนฉันถึงอะไรคือสิ่งที่สำคัญในชีวิต  แต่การตระหนักรู้จะมีเมื่อเวลามาถึงเท่านั้น

อารมณ์ที่พ่อแม่ประสบผ่านมักซับซ้อนด้วยเหมือนกันด้วยองค์ประกอบที่ไม่ อาจรู้ได้ที่พวกเขาต้องเผชิญ  ลูกของฉันเรียนรู้ที่จะพูดได้ตามปกติไหม  แกจะประสบผลสำเร็จในโรงเรียนไหม  เขาจะไปกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันได้ไหม  อดทนกับสถานการณ์ที่เซ็งแซ่ไหม  จดโน้ตระหว่างการสอนได้ไหม  ผ่านการสอบที่เขาจำเป็นเพื่อได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนไหม

โดยแบบฉบับแล้วพ่อแม่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ฉันเรียกว่า  ปัญหา “การดิ้นรนแบบหลายด้าน” มากกว่าจะเป็นแค่ด้านเดียว  และเพียงเมื่อดูเหมือนว่า ปัญหาหนึ่งจะอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว  แต่ปัญหาอื่นๆ อีกกำลังตามมา  กระบวนการค้นพบ การค้นหาเพื่อความเข้าใจการดิ้นรนของเด็ก เป็นเรื่องน่าสับสนและน่าตกใจกลัวและมักเป็นระยะยาวด้วย

ระหว่างกระบวนการค้นพบ พ่อแม่ต้องรู้สึกซาบซึ้งในบทบาทที่สำคัญของตนเอง  เวลาเป็นเรื่องมีค่า และสังคมให้เวลาเด็กเหล่านี้น้อยลงๆ  และขณะที่ความรับผิดชอบของพ่อแม่มีอยู่ท่วมท้นในทุกเวลา  พ่อแม่ควรจะรู้สึกถึงอำนาจแห่งความรักของตนด้วยเหมือนกัน

นี่เป็นยุทธศาสตร์บางอย่างซึ่งอาจจะช่วยเหลือระหว่างกระบวนการค้นพบ

พูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ  แม้แต่ความรู้สึกซึ่งสังคมอาจไม่เห็นด้วย เช่น ความโกรธ  ความลำบากใจและความสูญสิ้นเรี่ยวแรง
เลือกคนบางคนซึ่งอาจจะเป็นสามีหรือภรรยา  เพื่อน  พระ  พี่สาว น้องสาว หรือพี่ชาย น้องชาย ซึ่งจะฟังโดยไม่ปล่อยความเห็นให้ผ่านไป  อินเตอร์เน็ตกลายเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนมาเชื่อมต่อกัน  ขณะที่ควรจะให้ความใส่ใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว  เพียงแค่อ่านความคิดของคนอื่นสามารถลดความหวาดระแวงไปได้มาก  มันช่วยลดความรู้สึกว่าคุณอยู่คนเดียว

ยอมรับว่า การเป็นพ่อแม่เด็กคนนี้เป็นเรื่องท้าทายตลอดเวลา
ความสิ้นเปลืองเรื่องเงิน เวลาและพลังงานอาจทำให้เรารู้สึกเหลือทน  ความรู้สึกเป็นส่วนน้อยซึ่งพ่อแม่ของเด็กที่กำลังดิ้นรนรู้สึกไม่ได้เป็นการ ช่วยสนับสนุนเลย  จุดเน้นคือการช่วยเหลือเด็ก ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ควรจะทำอย่างไร  โดยการยอมรับว่า สิ่งที่ท่านกำลังทำนั้นยาก  ท่านอาจจะรู้สึกโล่งอกหรือยอมรับความรู้สึกของตนเองได้มากขึ้น

ให้การศึกษาตนเองอย่างดีที่สุดเท่าที่ท่านสามารถเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ท่านเห็นในตัวเด็ก
การค้นหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย  โดยเฉพาะเมื่อท่านไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของท่าน  และมืออาชีพที่เชี่ยวชาญอาจยากที่จะค้นหา  อินเตอร์เน็ตสามารถจะเป็นแหล่งการค้นหาแหล่งใหญ่มหาศาลอีกเหมือนกัน เมื่อใช้ด้วยความใส่ใจและมีวิจารณญาณที่ดี  ใช้มันเหมือนผู้สื่อข่าวซึ่งตรวจสอบข้อมูลของเขามากกว่าหนึ่งแหล่ง

แต่พ่อแม่ไม่สามารถจะเป็นผู้รู้ในทุกด้านที่มีผลกระทบต่อลูกของตนและแน่ นอนไม่ถึงระดับมืออาชีพแน่  แต่พวกเขาสามารถถามคำถามที่มีประสิทธิภาพ  ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการวินิจฉัยกันขึ้นมา  พ่อแม่ควรจะรู้สึกอิสระที่จะถาม  พฤติกรรมอะไร  สัญญาณใดหรืออาการอย่างใดที่ลูกของฉันมีและตรงกับข้อวินิจฉัยนั้น  และที่สำคัญคือ สัญญาณใด อาการใดและพฤติกรรมอะไรที่ไม่ตรงกับการวินิจฉัยนั้น

ฉลองพรสวรรค์ให้ลูกของคุณ
ลูกชายของฉันจะเป็นที่สังเกตเสมอในช่วงปีแรกๆ ของการดิ้นรน  เขาทำงานหนัก อ่อนไหวและระวังถึงการถูกวัดโดยคนอื่นๆ  แม้กระนั้นก็ดีเขาก็ใส่ใจในความรู้สึก จิตใจมีเมตตา  และถือทิฐิ เป็นทักษะที่จะช่วยเขาได้ดีในชีวิต  เด็กทุกๆ คนมีคุณสมบัติพิเศษ  พรสวรรค์ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อช่วยเหลือเด็กให้ปรับตัวเข้ากับโลกของเขาหรือ ของเธอ

รู้สึกถึงความหวัง  ถ้าท่านสามารถทำได้
สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น  ปัจจุบันมีเครื่องมือช่วยเหลือที่หาได้ง่ายขึ้น  และด้วยคำแนะนำที่เหมาะสม  เครื่องมือเหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างให้กับลูกของคุณได้อย่างเหลือ เชื่อ  การผสมผสานระหว่างความหวัง การค้นหามืออาชีพที่ใส่ใจและมีทักษะ  รวมทั้งการไว้วางใจความรู้ของคุณเองเกี่ยวกับโลกของลูกคุณจะสามารถสร้างความ แตกต่างได้อย่างแท้จริง

ระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้  ฉันถูกถามให้เอ่ยชื่อการช่วยเหลือที่สำคัญที่สุดซี่งสร้างความแตกต่างอย่าง สำคัญในตัวลูกชาย  ผู้สัมภาษณ์ยืนยันให้ฉันเอ่ยถึงอย่างเดียว  ฉันตอบว่า  “เราไม่เคยยอมแพ้” และนั่นอยู่ในกระบวนการค้นพบ  มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่เคยยอมแพ้จนกระทั่งเราพบคำตอบต่อคำถามของเรา  ในการวิเคราะห์ท้ายสุด  คุณภาพชีวิตของลูกของเราขึ้นอยู่กับคำตอบเหล่านี้

แปลและเรียบเรียงจาก The Process of Discovery: Finding Out Why Your Child is Struggling โดย Karen J. Foli แปลโดย พรรษชล ศรีอิสราพร

ภาพประกอบบทความหน้าต่าง LD

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก