ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

การให้บริการช่วยเหลือเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา ตอนที่ 3 20/09/2010

โดย ซู ทอมป์สัน

การให้บริการช่วยเหลือเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (NLD) แบบ CAMS นั่นคือ การชดเชย (Compensations)  การทดแทน (Accommodations)  การแก้ไข (Modification) และ กลยุทธ์ (Strategies) มีดังนี้คือ การชดเชย (Compensations)

1. เด็ก NLD จะพบความยุ่งยากกับการจัดระเบียบทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งเรื่องการประสานสอดคล้องกัน  ความเชื่องช้าเป็นอีกเรื่องที่ต้องดิ้นรนอีกด้วย (ทั้งมีปัญหาเรื่องไม่ตรงต่อเวลา) เรื่องนี้ไม่ควรถูกปฏิบัติว่าเป็นความประพฤติที่ผิด  การช่วยเหลือเด็กประเภทนี้โดยการยอมให้เวลาเขาเพิ่มให้เขาเข้าที่และโดยการให้สัญญาณเตือนที่เป็นคำพูดแนะนำเขาให้ผ่านพื้นที่ว่างได้  ประเมินความเข้าใจของเขาเรื่องพื้นที่ว่างและความคิดรวบยอดเรื่องทิศทางอย่างต่อเนื่อง

2. อย่าประเมินลักษณะร้ายแรงของความบกพร่องต่ำเกินไป  ด็อกเตอร์โร้ค กล่าวว่า “หนึ่งในคำวิจารณ์ที่มีบ่อยมากที่สุดเกี่ยวกับโปรแกรมการให้การรักษาช่วยเหลือกับเด็กพิเศษประเภทนี้คือ การมีหน้าที่ในการรักษาโดยไม่รู้ถึงขีดจำกัดและลักษณะสำคัญของความบกพร่องของเด็ก”  เขาเน้นย้ำว่า “สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการใช้วิธีที่ต้องวิริยะบากบั่นและค่อนข้างเชื่องช้าในการสอนเด็ก NLD คือ ความรู้สึกอย่างผิดๆ ของผู้ให้ที่เอาใจใส่  ซึ่งคิดว่าเด็กนั้นเก่งและสามารถปรับตัวให้เหมาะสมได้กว่าที่เป็นจริง” ด็อกเตอร์โร้คยังเตือนอีกว่า  ผู้สังเกตการณ์มีแนวโน้มที่จะประเมินความฉลาดของเยาวชน NLD สูงไป  และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่เต็มใจที่จะรับเอาวิธีการให้การช่วยเหลือทางการศึกษาอย่างเป็นทางการ  ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้สู่ทางแห่งความสำเร็จของเยาวชน NLD ความไม่รู้ของคุณพ่อคุณแม่และนักการศึกษาในเรื่องลักษณะสำคัญของอาการ NLD นำไปสู่ความคาดหวังที่ไม่เหมาะสมที่มีต่อเด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ความคาดหวังสำหรับเด็กนี้ควรจะนำความยืดหยุ่นมาใช้ด้วยเสมอ พิจารณาความจริงที่ว่า เด็ก NLD มีความต้องการและความสามารถที่แตกต่างกว่ากลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน  (ข้อสังเกต: ความก้าวหน้าของแต่ละคนนั้นมักจะถูกขัดขวางต่อไปเสมอโดยการดูเหมือนไม่สามารถที่จะสะท้อนธรรมชาติและความจริงจังของปัญหาของตนเอง)

3. อย่าบังคับให้เด็ก NLD อยู่อย่างไม่พึ่งใคร ถ้าคุณรู้สึกว่า เขายังไม่พร้อมสำหรับบางสิ่ง (ไว้วางใจสัญชาตญาณของคุณและระมัดระวังที่จะไม่เปรียบเทียบเขากับเด็กคนอื่นๆ ที่อายุวัยเดียวกัน) มันไม่เป็นผลดีที่จะโดดเดี่ยวเขา  แต่อย่าทำผิดโดยการคิดว่า จะทิ้งเขาไว้กับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ซับซ้อน  สอนให้เขาใช้กลวิธีการชดเชยโดยใช้ภาษาพูดของเขาจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกับสถานการณ์ใหม่ๆ  โลกสามารถกลายเป็นสิ่งน่ากลัวมากสำหรับคนซึ่งอ่านความหมายในการสื่อสารผิดถึง 65 %  และโดยธรรมชาติแล้วเขาไม่เต็มใจที่จะลองสิ่งใหม่ๆ  การพัฒนาทักษะทางสังคมของเด็กNLD จะล่าช้าด้วยความเข้าใจผิดซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดประเด็นเรื่องความไม่มั่นคงของเด็กที่จะพัฒนาต่อเรื่องราวของ “แม่ที่ปกป้องลูกจนเกินไป” จำเป็นจะต้องถูกลืม  คุณพ่อคุณแม่และบรรดามืออาชีพต้องทั้ง “ปกป้อง” และมีบทบาทช่วยเหลือเด็ก NLD  ด็อกเตอร์โร้คกล่าวว่า “แม้ว่าผู้ให้ที่เอาใจใส่เด็กจะถูกกล่าวหาอยู่บ่อยๆว่า “ปกป้องจนเกินไป” มันชัดเจนว่า  พวกเขาอาจจะเป็นคนกลุ่มเดียวเท่านั้นซึ่งมีความเอาใจใส่ถึงความเปราะบางและการขาดการพัฒนาทักษะที่เหมาะสมของเด็ก”  จำเป็นจะต้องใช้ความใส่ใจและใช้ดุลยพินิจมาปกป้องเด็ก NLD จากการยั่วเย้า  การตัดสินลงโทษและบ่อเกิดอื่นๆ ของความกังวล  การอยู่โดยไม่พึ่งพิงใครควรจะถูกนำเข้ามาใช้ทีละน้อย  ในสถานการณ์ที่ควบคุมและไม่ข่มขู่  ยิ่งคนรอบๆ ตัวเด็กมีความเข้าใจเขาและจุดอ่อนจุดแข็งเป็นพิเศษของเขาอย่างสมบูรณ์มากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมทัศนคติการอยู่โดยไม่พึ่งใครของเด็กแต่ละคนมากขึ้น  อย่าละทิ้งเด็ก NLD ให้จัดการเองในสถานการณ์หรือกิจกรรมใหม่ๆ ซึ่งขาดโครงสร้างเพียงพอ

4. หลีกเลี่ยงการก่อให้เด็กเกิดการดิ้นรนกับการใช้อำนาจหน้าที่  การลงโทษ และการขู่เข็ญ  เด็กประเภทนี้ไม่เข้าใจการแสดงอำนาจที่แกร่งกร้าวและอารมณ์โกรธ  การข่มขู่ เช่น “ถ้าคุณทำอย่างนี้  แล้วบางสิ่งที่เป็นโชคร้ายจะเกิดขึ้นกับคุณ” เป็นเพียงแค่ทำลายความรู้สึกมีหวังของเด็ก  เป้าหมายและความคาดหวังที่มอบให้เขาต้องพอจะบรรลุได้และคุ้มค่า  จำไว้ว่า การนำ “สิทธิพิเศษ” ออกไป จะไม่ช่วยรักษาเด็กที่มีความบกพร่องทางระบบประสาทนี้ (แต่อาจจะนำเขาไปสู่ทางแห่งความกดดันหดหู่) นี่เป็นรูปแบบการให้ความช่วยเหลือที่ไม่เหมาะสมในส่วนที่ผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง  และมันไม่เป็นผลดีและทำความเสียหายต่อความเป็นอยู่และการพัฒนาของเด็กประเภทนี้  “ความสับสน” และความเงอะงะทางสังคมที่เขาแสดงออกเป็นเรื่องจริงและไม่ได้ตั้งใจ  พวกเขาไม่ควรจะถูกมองว่า เป็นความประพฤติที่ต้องถูกลงโทษ

5. ผู้ใหญ่ทั้งหลายควรเข้าหาเด็กในทางบวกมากกว่าทางลบเสมอ เพื่อได้รับสิ่งที่ดีที่สุด  เหมือนอย่างที่เราได้เห็น ชีวิตเป็นสิ่งที่เรียกร้องมากและยุ่งยากสำหรับเด็ก NLD ส่วนใหญ่ของการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ผิดปกติของพวกเขาจะมีเป้าหมายและตามปกติจะเป็นการแสดงความพยายามของพวกเขาเพื่อจะชดเชย  มันเป็นการฉลาดที่จะพยายามเปิดเผยเหตุผลสำหรับพฤติกรรมเหล่านั้น  และเป็นการช่วยเด็ก NLDให้แสดงพฤติกรรมแทนที่ที่เหมาะสมหรือยอมรับได้มากขึ้น (ตามปกติจะผ่านการอธิบายเป็นคำพูดอย่างละเอียด) คุณพ่อคุณแม่และบรรดามืออาชีพจำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามให้เด็กได้อธิบายการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา และพยายามที่จะยุติว่าจุดประสงค์อะไรที่ทำพฤติกรรมอย่างนั้น  จากนั้นให้ช่วยเหลือสนองความต้องการของเด็กมากกว่าลงโทษพฤติกรรมที่มีผลอยู่  จำไว้ว่า  กับเด็กทั้งหมดแล้ว อย่างน้อย 90% ของปฏิกิริยาของคุณต่อเด็กประเภทนี้ต้องเป็นไปในทางบวกโดยธรรมชาติ

(ติดตามตอนต่อไป)
 

แปลและเรียบเรียงจาก Servicing Nonverbal Learning Disorders โดย Sue Thompson M.A., C.E. (1996) โดย พรรษชล ศรีอิสราพร

ภาพประกอบบทความหน้าต่าง LD

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก