การบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา ตอนที่ 5 (Nonverbal Learning Disorders หรือ NLD) (1996) 02/08/2010
การวินิจฉัยการบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา
การจัดระเบียบระหว่างที่ว่างกับการมองเห็น
ปัญหาการรับรู้เรื่องที่ว่าง, ความเกี่ยวพันของที่ว่าง, การจดจำ การจัดระเบียบและวิธีการสังเคราะห์ข้อมูลเรื่องที่ว่างกับการมองเห็น, การแยกแยะและการจดจำรายละเอียดในการมองเห็นและความสัมพันธ์ที่มองเห็น, การกำหนดทิศทางในที่ว่างกับการมองเห็น (รวมทั้งปัญหาต่างๆ ในการกำหนดทิศทางซ้ายขวา), ความจำในการมองเห็น การเชื่อมประสานกันของสิ่งที่นำเข้าในการมองเห็นกับกระบวนการของกล้ามเนื้อ (การรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกล้ามเนื้อกับการมองเห็น), ความคงที่ของรูปแบบการมองเห็น, และการก่อรูปของความคิดรวบยอดล้วนหยั่งรากเป็นความบกพร่องขั้นพื้นฐานในการรับรู้ทางการมองเห็นและมโนภาพที่มองเห็น เด็กกลุ่มนี้จะไม่สร้างมโนภาพต่างๆ ในการมองเห็น ดังนั้นจึงไม่สามารถจินตนาการสิ่งที่เคยเห็นมาก่อน เขาจะเพ่งความสนใจไปที่รายละเอียดของสิ่งที่เขาเห็นและมักพลาดที่จะจับ “ภาพรวมทั้งหมด”
ความสับสนในเรื่องที่ว่างกับการมองเห็นเป็นสาเหตุของความประพฤติที่ผิดปกติหลายอย่าง ซึ่งชัดเจนในวัยเยาว์ของเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา เด็กประเภทนี้จะพยายาม “ผูกติด” กับผู้ใหญ่ ผ่านการสนทนาที่ต่อเนื่องเพื่อที่จะทำให้สถานะของเธอในห้องเรียนมั่นคง เธอต้องการที่จะให้สมญานาม (ทางคำพูด) (ถึงแม้จะเป็นจิตใต้สำนึก) ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ เพื่อที่เธอจะจดจำและพยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์ประจำวันซึ่งคนอื่นๆ สามารถจดจำและรับเอาได้ทันทีอย่างไม่ต้องใช้ความพยายาม ประสบการณ์ที่ถูกสะสมไว้ในความจำโดยการให้สมญานามออกมาเป็นคำพูด ไม่ใช่โดยมโนภาพที่จินตนาการหรือการระลึกความรู้สึกเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนไหว เธอจะมีความจำที่แย่เรียงลำดับกันตั้งแต่เรื่องใหม่ๆ เรื่องซับซ้อน และ/หรือเรื่องที่ไม่สามารถคิดออกมาเป็นคำพูดได้อย่างง่ายๆ
เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ที่ไม่ใช่ภาษาต้องใช้ความคิดอย่างลึกซึ้งที่จะคิดทุกๆ สิ่งที่เขาประสบในสิ่งแวดล้อมเป็นคำพูด เนื่องจากการรับรู้ที่ผิดพลาด การคิดเป็นคำพูดนี้อาจไม่ถูกต้อง แต่เด็กประเภทนี้ไม่ยอมท้อถอย เพราะว่านี่เป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่เขาจะเข้าถึงกระบวนการทางข้อมูลได้ เขาไม่สร้างมโนภาพในการมองเห็นซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยพวกเราให้จดจำและเข้าใจสิ่งที่เราได้เห็นหรือสถานที่ที่เราเคยไปมาก่อน สาเหตุนี้นำความยุ่งยากอย่างมหาศาลมาสู่เขาในการพยายามที่จะพบหนทางของเขาในสถานที่ใหม่ๆ
บ่อยครั้งที่การอ้างอิงเรื่องที่ว่างมักถูกละเลยโดยสิ้นเชิง (ตัวอย่างเช่น เด็กประเภทนี้อาจจะระลึกได้ถึงรายละเอียดที่แตกต่างกันได้มากมายของบ้านที่เธอเพิ่งจะไปเยี่ยมมา แต่เธอจะไม่สามารถอธิบายสถานที่ตั้งที่เกี่ยวโยงกับบ้านหลังอื่นๆ ในบล็อคเดียวกัน และ/หรือบ้านของเธอเอง เธอไม่สามารถสร้างความคิดรวบยอดของรายละเอียดที่เธอจดจำ) ทันทีที่เข้าโรงเรียน เธอจะมีความยุ่งยากในการนึกให้ออกว่าจะวางงานเขียนบนกระดาษอย่างไรและที่ไหน หรือจากห้องพยาบาลจะกลับไปที่ชั้นเรียนของเธอได้อย่างไร ปัญหาเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์ยังมีผลจากความบกพร่องในเรื่องที่ว่างและการมองเห็นและการรับรู้ในการมองเห็น เธอจะมีปัญหาอื่นร่วมด้วยในการจัดวางคอลัมน์ของตัวเลข การสังเกตเรื่องทิศทาง และการจัดระเบียบงานของเธอ
เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษามักจะ “พูดจ้อ” เสมอเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ เป็นการทดแทนความบกพร่องเรื่องที่ว่างกับการมองเห็นด้วยคำพูด แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้รับรู้ถึงสถานที่ซึ่งบ้านของเขานั้นตั้งอยู่ในหมู่เพื่อนบ้าน เขาก็จะพบหนทางของเขากลับจากบ้านเพื่อนโดยการนับบ้านซึ่งอยู่ระหว่าง คิดชื่อจุดสังเกตของสิ่ง-แวดล้อม และ/หรือนับทบทวนเรียงลำดับรายละเอียดนั้นๆ ซึ่งเขาต้องเจ็บปวดที่จะคอยคิดเป็นคำพูดและต้องจดจำเป็นคำพูด
เด็กประเภทนี้สามารถที่จะดำรงชีวิตอย่างจำกัดในสภาพแวดล้อมของพวกเขา โดยใช้ทักษะการจดจำที่พัฒนาได้ดี อย่างไรก็ตาม เทคนิคการรับมือจะถูกลดทอนลงเมื่อใดก็ตามที่เด็กเผชิญกับสถานการณืใหม่ๆ และซับซ้อนอย่างสูง เขาอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะชอบสถานการณ์ที่ทำนายได้มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จมาก่อนแล้ว การผันเปลี่ยนสถานการณ์ที่คงที่แล้วไปสู่การสถานการณ์ใหม่ที่แตกต่าง (เช่น การให้ครูมาแทนเพื่อควบคุมชั้นเรียนซึ่งเด็กคนนี้เคยได้รับความมั่นคงจากครูประจำที่เคยสอน) สามารถสร้างความสับสนให้กับเทคนิคการรับมือของเด็กและเพิ่มระดับความกังวลให้กับเขา
นอกจากปัญหาการจับดินสอและการเขียนด้วยลายมือแล้ว เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านที่ไม่ใช่ภาษา (ถ้อยคำ) อาจจะพบความยุ่งยากในการจดจำรูปร่างของตัวอักษร (ความจำในการมองเห็น) และการจดดินสอเขียนเส้นตัวอักษรด้วยลำดับที่ถูกต้อง (ความจำที่เรียงลำดับในการเห็น) เขาจะมีความยุ่งยากกับความคิดรวบยอดเรื่องความคงที่ของรูปแบบที่มองเห็น ความสามารถที่จะรับรู้ว่า วัตถุสิ่งหนึ่งมีคุณสมบัติที่ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น รูปแบบเฉพาะ ตำแหน่งเฉพาะและขนาดเฉพาะ ในการปรากฎเป็นภาพที่หลากหลาย งานเขียนทั้งหมดจะเชื่องช้าและสาหัส การให้เขาคัดลอกงานเขียนจากกระดานหรือจากหนังสือแบบถี่ถ้วนเป็นเรื่องทีไม่ค่อยเป็นผลในทางปฏิบัติและสร้างความเดือดร้อนใจให้กับเด็กประเภทนี้