ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จ.อุดรธานีจัดมหกรรมงานอาชีพโรงเรียนเฉพาะความพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันที่ลงข่าว: 29/01/15

ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์สาขาอุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาวิชาชีพเพื่อการมีงานทำ สำหรับเด็กพิการและด้อยโอกาส โดยมีโรงเรียนเฉพาะความพิการ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดอุดรธานี โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดขอนแก่น โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดชัยภูมิ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล โรงเรียนศรีสังวาลย์ขอนแก่นร่วมกิจกรรม

 

นายอำนาจ ชนชนะชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดอุดรธานี ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการศึกษา สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการตามโครงการ ส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ความช่วยเหลือการมีงานทำของนักเรียน จากอาชีพที่เหมาะสมร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ สถานประกอบการ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนมีรายได้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว เพื่อทักษะด้านอาชีพและเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่เน้นเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

โดยเฉพาะในการศึกษาเพื่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีความพร้อมทางอาชีพ ด้วยการวางแผนทำความร่วมมือ MOU ร่วมกัน ระหว่างสถานศึกษาที่จัดการศึกษา สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน กับหน่วยงานทางการศึกษาของสำนักงานอาชีวศึกษา อาทิ วิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่าง และสถานประกอบการที่มีความชำนาญในการจัดการศึกษาด้านอาชีพ

 

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ นอกจากจัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียนพิการและด้อยโอกาส ให้มีโอกาสเข้าถึงอาชีพได้เร็วขึ้น รวมทั้งพัฒนาระบบการบริหารจัดการโรงเรียนเฉพาะความพิการให้มีประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการจัดการศึกษาให้มีงานทำมากขึ้น แล้วยังมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ทักษะเกี่ยวกับอาชีพ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต และเป็นการสาธิต จำหน่ายผลผลิตของนักเรียนสู่สาธารณชนด้วย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก