ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ผู้บกพร่องทางการอ่าน (Dyslexia) กับปัญหาการขับขี่รถ

โดย เดล เอส บราวน์ (2006)

ทอมเป็นหนุ่มหล่อวัย 27 ปีที่เป็นผู้บกพร่องทางการอ่าน(dyslexia) ต้องพบกับปัญหาการเรียนขับรถ สมัยเรียนมัธยมปลายเขาสอบขับรถตกหลายครั้ง แต่เขาก็ยังคงเรียนขับรถต่ออีกในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ยังคงไม่ได้ไปสอบการขับรถอีก ตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำให้เขาตระหนักว่าเขาคงจำเป็นต้องเรียนขับรถแบบช้าๆ สม่ำเสมอและทำตามวินัยที่เขาเรียนการอ่าน อย่างไรก็ตามเขาก็ตกลงใจที่จะเรียนขับรถให้ได้

เขาคงจะต้องฝึกตัวเอง ทั้งในเรื่องการเหยียบคันเร่งและการเหยียบเบรค เรียนรู้การจอด การถอย การเลี้ยงเกียร์และการขับจะต้องใช้การฝึกเป็นพิเศษ เขาจะต้องพัฒนาความสามารถในการขับรถไปตามทิศทางต่างๆ ได้ถูกต้อง เช่นการอ่านแผนที่ อ่านและเข้าใจสัญญลักษณ์ได้รวดเร็วพอที่จะใช้ข้อมูลนั้นได้เกิดประโยชน์

การ เรียนที่จะอ่านหนังสือต้องอาศัยครูบาอาจารย์หลายคน เป็นไปด้วยการฝึกฝนและเดินตามกฏเกณฑ์ นับเป็นย่างก้าวที่ใหญ่ในชีวิตของเขา เขาคิดว่าการอ่านจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาทั้งหมด ซึ่งมันก็ช่วยได้จริงๆ เขาได้งานที่ดี ได้แต่งงานและมีบุตร แต่ประเด็นเรื่องการบกพร่องทางการเรียนรู้ของเขาก็ยังคงเกิดขึ้นโดยตลอดมา และความไม่สามารถจะขับรถได้ก็เป็นปัญหาสำคัญ แม้ว่าบ้านของเขาจะอยู่ในระยะทางที่ขึ้นรถเมล์ไปทำงานได้ เขารู้ว่า เขาจะยังคงจำเป็นต้องเรียนขับรถ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องพึ่งภรรยาหรือเพื่อนไปไหนมาไหน

ทอมมีปัญหา เรื่องการรับรู้ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการบกพร่องทางการเรียนรู้และบางครั้ง ก็เกิดขึ้นร่วมกับการบกพร่องทางการอ่าน ปัญหาในการรับรู้สามารถสร้างความยุ่งยากอย่างมากในการเรียนขับขี่รถยนตร์ บุคคลที่มีปัญหาในการรับรู้จะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกถ้วนผ่านการรับรู้ทาง ความรู้สึกของเขาหรือมีความยุ่งยากในกระบวนการรับรู้และแปลข้อมูล เหมือนคลื่นรบกวนในวิทยุหรือภาพเสียๆในโทรทัศน์ ข้อมูลที่เดินทางจากตา หู ผิวหนังหรือสมองจะขาดๆวิ่นๆ

มีบุคคลอีกมากมายที่เป็นผู้บกพร่องทาง การอ่าน (dyslexia) ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการรับรู้ โดยแท้จริงแล้ว บุคคลที่เป็นผู้บกพร่องทางการอ่านจะมีจุดแข็งในเรื่องการรู้จักความสัมพันธ์ กับที่ว่างและ/ หรือความประสานกันระหว่างตาและมือ พวกเขาพบว่าการขับขี่รถยนตร์เป็นเรื่องง่าย บุคคลที่เป็นผู้บกพร่องทางการอ่านบางคนจะขับขี่รถยนตร์ได้เก่งกว่าคนอื่นๆจน กระทั่งสามารถทำงานขับรถบรรทุกได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้บกพร่องทางการอ่านบางคนพบว่าการขับขี่รถยนตร์เป็นเรื่องยาก ทอมเป็นตัวแทนของคนที่มีลักษณะเช่นนั้น

สำหรับบุคคลที่ขับขี่รถได้ แต่พบความยุ่งยากในการอ่านอย่างหนัก การทดสอบสำหรับคนขับรถถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญ โชคดีที่มันเป็นไปได้ที่จะใช้การทดสอบปากเปล่า คนอเมริกันที่ใช้กฎหมายคนพิการสามารถจะทำการร้องขอการช่วยเหลือที่สมเหตุสม ผลนี้เป็นกรณีพิเศษ

ทอมมีความทรงจำที่เลวร้ายเกี่ยวกับประสบการณ์ใน การเรียนขับรถในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนขับรถห้าคนกับครูฝึกหนึ่งคนในการเรียนการสอนขับรถ เขาพบว่ามันน่ากลัวและสุดจะทน เขารู้สึกราวกับว่ามีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นพร้อมๆกันในทันที ที่นั่งก็สั่น รถยนตร์ก็ดูเหมือนจะถลาไปข้างหน้าเมื่อเท้าของเขาแตะคันเร่ง และถนน รั้วรอบสนามขับรถ รวมทั้งหญ้าดูเหมือนจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปรอบๆรถ เสียงรถยนตร์คำราม ครูฝึกขับรถก็ตะโกน แขนของเขาลื่นด้วยเหงื่อจากการจับพวงมาลัยรถ นักเรียนเพื่อนของเขาสงบลงหลังจากมีอาการตื่นตระหนกบ้างในช่วงเริ่มต้นและ เขาก็ทำดีที่สุดในการเก็บอาการกลัวไว้

บางปัญหาของทอมเกิดขึ้นเนื่อง จากความลำบากในการควบคุมสมาธิ คนส่วนใหญ่สามารถเลือกสนใจเฉพาะสิ่งที่สำคัญแยกออกจากสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่สมองของทอมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อย่างง่ายๆ เขาให้ความสนใจกับทุกสิ่งในขณะเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาสะเปะสะปะและสับสน เขาจำเป็นต้องหายใจช้าๆอย่างมีสติ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ มองและฟังอย่างระมัดระวัง เขาต้องหัดที่จะผ่อนคลาย ระวังระไว และระวังสติสัมปชัญญะ

บุคคลบางคนที่มีปัญหาเรื่องการรับรู้จะมี ปฏิกิริยาที่ตรงกันข้าม พวกเขาจำเป็นต้องผลักดันตนเองให้มีสมาธิเพียงพอ ในการดูและฟังสิ่งที่จำเป็นเวลาขับรถ

ทอมยังมีปัญหาในการดูให้ถี่ ถ้วนและการประสานสัมพันธ์การเคลื่อนไหวของรถกับการใช้มือที่พวงมาลัยรถ ในขณะที่เป็นวัยรุ่นๆ เขาพบความลำบากในการเรียนขี่จักรยานและเอาแต่ล้มลง เมื่อเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเขาพบความลำบากในการคัดท้ายเรือคนู เขาได้แต่หวังว่า ความพยายามอย่างหนักที่จะเชี่ยวชาญในการพายเรือคนูจะช่วยให้เขาขับรถได้

ทอม แสวงหาครูฝึกขับรถยนตร์ เขาพบว่าครูสอบขับรถยนตร์ส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์กับผู้ที่บกพร่องทางการ อ่าน (dyslexia)ที่มีปัญหาการรับรู้และ ครูสอบขับรถยนตร์เอกชนส่วนมากไม่ได้รับการฝึกวิธีการสอนขับรถยนตร์ งานของครูสอนขับรถยนตร์มักเป็นงานพาร์ทไทม์และบางครั้งถูกใช้เป็นหนทางหาราย ได้ทางหนึ่งเท่านั้น

เขาต้องใช้เวลานานมากที่จะหาจนพบได้สักคน เขาตรวจสอบกับกลุ่มคนในท้องถิ่นซึ่งทำงานกับบุคคลที่บกพร่องทางการอ่าน ในที่สุดเขาก็ได้ทราบข่าวจากคุณแม่ของวัยรุ่นคนหนึ่งที่บกพร่องทางการอ่าน และมีปัญหาในการเรียนขับรถ เขาจึงติดต่อครูสอนขับรถคนนี้ ครูสอนขับรถรู้จักอาการบกพร่องทางการอ่านดีและยังได้สอนลูกสาวที่เป็นผู้ บกพร่องทางการอ่านให้ขับรถด้วย

ทอมรู้สึกพอใจที่สามารถเรียนขับรถที่ มีการบังคับได้สองทางด้วยกัน เขาสามารถฝึกขับรถขณะที่ครูก็สามารถจะเหยียบเบรคและหมุนพวงมาลัยรถได้ทันที ที่เกิดสถานการณ์จำเป็นขึ้น ครูสอนขับรถให้เขาฝึกบนถนนราบที่วิ่งได้ฉิวเพื่อเรียนหมุนพวงมาลัยรถให้พอ เหมาะกับแต่ละโค้งของถนน แล้วเขาก็ได้ฝึกบนเนินเขาแต่เป็นถนนตรงเพื่อเรียนรู้การรักษาความเร็วให้คง ที่โดยการเหยียบคันเร่งเมื่อเขาขึ้นเนินเขาและปล่อยคันเร่งเล็กน้อยเมื่อขับ รถลงเนินเขา เขาได้ฝึกขับรถบนถนนที่เป็นลักษณะเนินเขาและถนนที่วิ่งได้ฉิว กระบวนการเรียนรู้ทีละขั้นตอนนี้เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะสอนผู้บกพร่องทาง การอ่านส่วนมาก ครูสอนขับรถยนตร์สอนเขาอย่างระมัดระวังที่จะขับร่วมไปกับรถคันอื่น ขับแซงรถคันอื่น ขับตามหลัง ขับตามกฎเส้นทางชิดซ้าย ชิดขวา การจอดขนานและทักษะอื่นๆอีกมากมายเพื่อการขับรถที่ดี

ทอมพบความยุ่ง ยากในการแยกแยะซ้ายจากขวาตามสัญชาตญาณ นั่นคือทำไมเขาต้องทำงานหนักในการเรียนรู้เพื่อแยกแยะคันเร่งจากเบรค มันต้องใช้การฝึกฝนเป็นอย่างมาก เขาต้องฝึกซ้ายขวาซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อจดจำให้ได้ว่า เลี้ยวด้านขวานั้นชิดกับโค้ง และเลี้ยวด้านซ้ายคือจุดที่ห่างจากโค้ง (ในสหรัฐอเมริกา พวงมาลัยรถอยู่ด้านซ้าย) บางครั้งเขาหยุดที่มุมถนนขณะที่เขาเดินอยู่และมองสิ่งแวดล้อมไปรอบๆราวกับ ว่าเขาเป็นคนขับรถอยู่ เขาจะจินตนาการตัวเองว่ากำลังเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา

ทอม ใช้เวลาหกเดือนในการเรียนขับรถ เขาแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพิจารณาเห็นแล้วว่าความพิการของเขามองไม่เห็น ไม่มีใครยกเว้นเพื่อนสนิทและครูสอนขับรถที่จดจำความพยายามเป็นพิเศษของเขา ได้ เขารู้สึกภูมิใจอย่างมหาศาลเมื่อเขาผ่านการทดสอบการขับขี่รถยนตร์และได้รับ ใบอนุญาตในที่สุด

เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อแสดงความต้องการท้าทายและ การสนับสนุนบุคคลที่บกพร่องทางการอ่านเมื่อเขาเรียนขับรถนั้น ถือเป็นเรื่องมองโลกในแง่ดี ผู้ย่างเข้าวัยผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ส่วนมากต้องดิ้นรนโดย ใช้ความพยายามทางการเรียนขับรถอย่างมาก ผู้สอนการขับรถยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบกพร่องทางการเรียนรู้ที่เป็น ปัจจุบัน

ทอมและบุคคลเช่นเดียวกับทอมสามารถกลายเป็นผู้ขับรถที่ ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ทอมสามารถเดินทางไปกลับจากที่ทำงานและขับรถพาภรรยาและลูกไปข้างนอกได้ แต่อย่างไรก็ตามเขายังจำเป็นต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกับสถานการณ์การขับขี่ในเมือง เขาพยายามที่จะให้ภรรยาและคนร่วมทางอื่นๆเป็นผู้นำทางให้ เขาจะขับรถได้ต่อเมื่อเขามีความระวังระไวอย่างสมบูรณ์เท่านั้น ถ้าเขารู้สึกอ่อนเพลียหรือไม่สบายใจเขาจะใช้การเดินทางรูปแบบอื่นแทน ถ้ารถไม่ติดเขาก็ยังรักษาการจำกัดความเร็ว

ผู้ขับรถที่เป็นผู้บกพร่องทางการอ่านหลายคนสามารถจะชดเชยและกลายเป็นผู้ขับรถที่ดีกว่าผู้ที่ไม่บกพร่องทางการอ่าน

แปลและเรียบเรียงจาก Dyslexia and Driving an Automobile By Dale S. Brown (2006)
โดย พรรษชล ศรีอิสราพร ส่วนสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา

ภาพประกอบบทความหน้าต่าง LD

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก