พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ตรวจความเรียบร้อยและความพร้อมของการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายในท้องสนามหลวง ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (2 พ.ย.) เป็นวันแรก โดยเปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชน จึงเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมบริเวณพระเมรุมาศและมณฑลราชวัตรที่ประกอบพิธีรวมถึงอาคารพระที่นั่งทรงธรรม อาคารในส่วนของศาลาลูกขุนทั้งหมด ซึ่งมีการจัดนิทรรศการทุกศาลา ตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายนนี้ และในวันนี้ (1 พ.ย.) กองทัพบกได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของกองทัพภาคที่ 1 จัดตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อดูแลการรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะชมงานนิทรรศการและชมความงดงามของพระเมรุมาศเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งการอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย โดยการเข้ามาชมนิทรรศการของประชาชนจะเข้าได้ 3 เส้นทางและผ่านจุดคัดกรอง 5 จุด รองรับประชาชนได้รอบละประมาณ 3,000-4,000 คน ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ไว้อย่างชัดเจนและมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงว่า พระภิกษุสงฆ์นั่งบริเวณใด นักท่องเที่ยวจะเข้ามาทางช่องทางใด ขณะที่ผู้พิการจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาช่วยดูแล นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์พยาบาลอำนวยความสะดวก รวมถึงอาหาร น้ำดื่มพระราชทานแจกจ่ายให้กับประชาชนทุกคนที่เข้าชมบริเวณพระเมรุมาศ โดยคาดว่า จะรองรับประชาชนได้ประมาณ 70,000-80,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตาม จะเปิดจุดคัดกรองตั้งแต่เวลา 6.00 น.- 21.00 น. แต่เวลาที่เปิดให้เข้าชมนิทรรศการคือ ตั้งแต่เวลา 7.00 น.-22.00 น. ของทุกวัน ส่วนเรื่องการปฏิบัติตัวและข้อห้ามต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ชี้แจงกับประชาชนที่เดินทางมาเยี่ยมชมอย่างชัดเจน เช่น อย่าจับหรือแตะต้องสิ่งของที่นำมาจัดแสดง ช่วยกันรักษาความสะอาด และช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัย

         พลเอก อภิรัชต์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอำนวยการการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการจัดงานนิทรรศการ ซึ่งมีกระทรวง ทบวง กรม มาร่วมการจัดงานครั้งนี้และอำนวยความสะดวกเพื่อประชาชน ส่วนในอนาคตจะขยายเวลาการเข้าชมนิทรรศการหรือไม่นั้น ต้องดูปริมาณของประชาชนในแต่ละวันก่อน โดยดูสถิติตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปและจัดทำข้อมูลเสนอต่อรัฐบาล