“ ดาวออแกไนเซอร์อิเวนต์ครบจบโดยคนพิการ”
นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล กล่าวว่า นอกจากทำงานกับกลุ่มคนพิการสติปัญญายังทำงานกับกลุ่มคนพิการออทิสติก คนพิการทางการเคลื่อนไหวและคนหูหนวกแล้ว ในที่ทำงานของผมหรือที่ทำงานของสมาคม เรามีข้อบังคับเรื่องการรับคนทำงานต้องรับคนพิการเข้ามาทำงานด้วย ดังนั้นจึงรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวและคนพิการหูหนวกปรากฏว่าน้องมีความถนัดในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาให้รับผิดชอบงานเว็บไซต์โดยกำหนดว่าใน 1 วันต้องลงโพสต์เฟซบุ๊กไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ติ๊กต๊อก (tiktok) ไม่น้อยกว่าวันละ 2 ครั้งเป็นค่ามาตรฐานในการทำงาน
ที่ผ่านมาสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทยทำโครงการเยอะมาก บางครั้งมีกีจัดงานอิเวนต์ต้องจ้างออแกไนซ์ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ภายหลังเริ่มทำเองบ้าง พอทำเองบ่อยขึ้นเด็กๆ สามารถทำได้และเก่งขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นในการดึงคนที่มีความสามารถเก่งๆ สอนน้องๆ โดยเวลาจัดงานโครงการต่างๆ ต้องจ้างออแกไนซ์ จะทำ MOU ในการทำงานร่วมกับผมต้องสอนน้องๆ ด้วย เช่น มีช่างภาพมาถ่ายรูปต้องให้เด็กพิการของเราประกบ 1 คนเท่านั้น หน้าจอที่คุณนั่งควบคุมงานต่างๆ ขอให้คนพิการเข้าไปร่วมด้วย เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ เหล่านี้กลับมาที่น้องเด็กพิเศษและคนพิการของเรา นี่เป็นจุดเริ่มต้น
มาถึงจุดหนึ่งเริ่มซื้อเครื่องมือให้ ซื้อคอมพิวเตอร์ ตัวเปลี่ยนหน้าจอ เช่น กล้อง 1 กล้อง 2 กล้อง 3 ต้องมีมุมมองในการถ่ายรูป มีช่างถ่ายภาพ มีการทำไลฟ์สด เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ในช่วงที่เกิดโควิดไปไหนไม่ได้ ทำการสอนผ่าน ZOOM ทุกวันที่สมาคม ถ้าใครสนใจ บ่าย 2 - 4 โมงเย็นมีการสอนทั่วประเทศบางคนมาจากลำพูน สระแก้ว ยะลา นราธิวาส เข้าเรียนด้วย ปรากฏว่า 2 - 3 ปีที่ผ่านมาให้น้องคนพิการทางการได้ยินควบคุม ZOOM ตลอดการสอนและเชิญวิทยากรข้างนอกมาอบรมปรากฏว่าน้องๆ เหล่านี้ได้ความรู้รวมทั้งสมาคมฯ ก็ได้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีจนเป็นความเชี่ยวชาญและชำนาญ จึงเกิดแนวคิดว่า ทำงานอิเวนต์สโลแกนขึ้นมาว่า “ดาวออแกไนเซอร์อิเวนต์ครบจบโดยคนพิการ” สามารถเปิดย้อนหลังดูได้ที่รายการ “เคียงบ่าเคียงไหล่” ตอน ช่างชุ่ย การถ่ายเบื้องหลังโดยคนพิการทั้งหมด เช่น พี่ปุ๊พิการทางการเคลื่อนไหวนั่งวีลแชร์เป็นหัวเรือใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ใช้วิทยุสื่อสารในการสั่งงาน น้องเมย์พิการทางกายมือเสีย 1 ข้างเป็นมือตากล้องที่เรียกว่า กล้องเดินไปยังมุมต่างๆ น้องพลอยมือปรับเปลี่ยนกับน้องเมย์ และน้องบอลพิการทางการได้ยินเป็นมือถือกล้องใหญ่ น้องตุ้ยพิการออทิสติกเป็นพิธีกร น้องบุญพิการดาวน์ซินโดรมประกบคู่กับพิธีกรทั่วไป ต่อไปในอนาคตข้างหน้าสามารถเดินงานเองได้ มีพิธีกรที่เป็นคนพิการทางด้านสติปัญญาแห่งแรกของประเทศไทย
สามารถติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100089910742425 และเห็นความสำคัญของลูกเรา ถ้าเกิดว่าทำให้เขามีกิจกรรมน้อยจะเห็นผลเสีย จากการที่บางคนคิดว่ามีลูกเป็นเด็กพิเศษไม่สามารถที่จะพัฒนาได้ แต่เมื่อไหร่เห็นความสามารถของเขาแล้วเราผลักดันเขาทำให้เขาสามารถที่จะไปต่อได้ จะเห็นว่าพัฒนาการของเขาจะเร็วขึ้นทวีคูณ เก่งขึ้น จากเดิมไม่กล้าเดี๋ยวนี้เขากล้าทักทายทุกคน กล้าวิ่งเข้าไปขอถ่ายรูปเซลฟี่ต่างๆ เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคน
นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล ทิ้งท้ายว่า “ต้องขอบคุณนักแสดงหลายๆ ท่านไม่ว่าจะเป็นคุณมาริโอ้ คุณผิงดาว คุณมัดหมี่ นอกจากมาร่วมกิจกรรมยังนำสิ่งของต่างๆ ขนม ไอศครีมมาเลี้ยงเด็กๆ อนาคตจะทำหนังสั้นเกี่ยวกับกลุ่มคนพิการทางสติปัญญาเพื่อจะเปิดตลาดโลก อาจจะไปสู่เมืองคานส์ อันนี้เป็นอีกโปรเจคที่จะทำนอกจากอิเวนต์ออการ์ไนซ์เซอร์แล้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของกลุ่มคนพิการสติปัญญาให้รู้จักมากขึ้น พยายามหากิจกรรมต่างๆ ที่ดีๆ และสร้างสรรค์ต่อสังคม เป็นการเปิดโอกาสให้เขามีงานทำ เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้ทุกคนหันกลับมามอง เขาไม่ได้มีความสามารถน้อยกว่าคนอื่นบางครั้งมีความสามารถมากกว่าคนอื่นทั่วไปด้วยซ้ำ เรามาช่วยกันนะครับทุกๆท่านด้วยเวลาจะจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเสวนา งานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ลองทดลองใช้เราดูแล้วทำ CSR ร่วมกัน ภาพลักษณ์ของบริษัทท่านดีขึ้นเราก็วินกันทั้งคู่ คือเด็กๆ ของเรามีงานทำเป็นประสบการณ์ได้พัฒนาความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นไป อยากให้มีโอกาสในสังคมในเรื่องเหล่านี้”
ที่ผ่านมาสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทยทำโครงการเยอะมาก บางครั้งมีกีจัดงานอิเวนต์ต้องจ้างออแกไนซ์ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ภายหลังเริ่มทำเองบ้าง พอทำเองบ่อยขึ้นเด็กๆ สามารถทำได้และเก่งขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นในการดึงคนที่มีความสามารถเก่งๆ สอนน้องๆ โดยเวลาจัดงานโครงการต่างๆ ต้องจ้างออแกไนซ์ จะทำ MOU ในการทำงานร่วมกับผมต้องสอนน้องๆ ด้วย เช่น มีช่างภาพมาถ่ายรูปต้องให้เด็กพิการของเราประกบ 1 คนเท่านั้น หน้าจอที่คุณนั่งควบคุมงานต่างๆ ขอให้คนพิการเข้าไปร่วมด้วย เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ เหล่านี้กลับมาที่น้องเด็กพิเศษและคนพิการของเรา นี่เป็นจุดเริ่มต้น
มาถึงจุดหนึ่งเริ่มซื้อเครื่องมือให้ ซื้อคอมพิวเตอร์ ตัวเปลี่ยนหน้าจอ เช่น กล้อง 1 กล้อง 2 กล้อง 3 ต้องมีมุมมองในการถ่ายรูป มีช่างถ่ายภาพ มีการทำไลฟ์สด เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ในช่วงที่เกิดโควิดไปไหนไม่ได้ ทำการสอนผ่าน ZOOM ทุกวันที่สมาคม ถ้าใครสนใจ บ่าย 2 - 4 โมงเย็นมีการสอนทั่วประเทศบางคนมาจากลำพูน สระแก้ว ยะลา นราธิวาส เข้าเรียนด้วย ปรากฏว่า 2 - 3 ปีที่ผ่านมาให้น้องคนพิการทางการได้ยินควบคุม ZOOM ตลอดการสอนและเชิญวิทยากรข้างนอกมาอบรมปรากฏว่าน้องๆ เหล่านี้ได้ความรู้รวมทั้งสมาคมฯ ก็ได้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีจนเป็นความเชี่ยวชาญและชำนาญ จึงเกิดแนวคิดว่า ทำงานอิเวนต์สโลแกนขึ้นมาว่า “ดาวออแกไนเซอร์อิเวนต์ครบจบโดยคนพิการ” สามารถเปิดย้อนหลังดูได้ที่รายการ “เคียงบ่าเคียงไหล่” ตอน ช่างชุ่ย การถ่ายเบื้องหลังโดยคนพิการทั้งหมด เช่น พี่ปุ๊พิการทางการเคลื่อนไหวนั่งวีลแชร์เป็นหัวเรือใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ใช้วิทยุสื่อสารในการสั่งงาน น้องเมย์พิการทางกายมือเสีย 1 ข้างเป็นมือตากล้องที่เรียกว่า กล้องเดินไปยังมุมต่างๆ น้องพลอยมือปรับเปลี่ยนกับน้องเมย์ และน้องบอลพิการทางการได้ยินเป็นมือถือกล้องใหญ่ น้องตุ้ยพิการออทิสติกเป็นพิธีกร น้องบุญพิการดาวน์ซินโดรมประกบคู่กับพิธีกรทั่วไป ต่อไปในอนาคตข้างหน้าสามารถเดินงานเองได้ มีพิธีกรที่เป็นคนพิการทางด้านสติปัญญาแห่งแรกของประเทศไทย
สามารถติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100089910742425 และเห็นความสำคัญของลูกเรา ถ้าเกิดว่าทำให้เขามีกิจกรรมน้อยจะเห็นผลเสีย จากการที่บางคนคิดว่ามีลูกเป็นเด็กพิเศษไม่สามารถที่จะพัฒนาได้ แต่เมื่อไหร่เห็นความสามารถของเขาแล้วเราผลักดันเขาทำให้เขาสามารถที่จะไปต่อได้ จะเห็นว่าพัฒนาการของเขาจะเร็วขึ้นทวีคูณ เก่งขึ้น จากเดิมไม่กล้าเดี๋ยวนี้เขากล้าทักทายทุกคน กล้าวิ่งเข้าไปขอถ่ายรูปเซลฟี่ต่างๆ เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคน
นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล ทิ้งท้ายว่า “ต้องขอบคุณนักแสดงหลายๆ ท่านไม่ว่าจะเป็นคุณมาริโอ้ คุณผิงดาว คุณมัดหมี่ นอกจากมาร่วมกิจกรรมยังนำสิ่งของต่างๆ ขนม ไอศครีมมาเลี้ยงเด็กๆ อนาคตจะทำหนังสั้นเกี่ยวกับกลุ่มคนพิการทางสติปัญญาเพื่อจะเปิดตลาดโลก อาจจะไปสู่เมืองคานส์ อันนี้เป็นอีกโปรเจคที่จะทำนอกจากอิเวนต์ออการ์ไนซ์เซอร์แล้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของกลุ่มคนพิการสติปัญญาให้รู้จักมากขึ้น พยายามหากิจกรรมต่างๆ ที่ดีๆ และสร้างสรรค์ต่อสังคม เป็นการเปิดโอกาสให้เขามีงานทำ เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้ทุกคนหันกลับมามอง เขาไม่ได้มีความสามารถน้อยกว่าคนอื่นบางครั้งมีความสามารถมากกว่าคนอื่นทั่วไปด้วยซ้ำ เรามาช่วยกันนะครับทุกๆท่านด้วยเวลาจะจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเสวนา งานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ลองทดลองใช้เราดูแล้วทำ CSR ร่วมกัน ภาพลักษณ์ของบริษัทท่านดีขึ้นเราก็วินกันทั้งคู่ คือเด็กๆ ของเรามีงานทำเป็นประสบการณ์ได้พัฒนาความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นไป อยากให้มีโอกาสในสังคมในเรื่องเหล่านี้”
