ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ลุงวัย 59 ปีสุดปลื้ม หลังกลายเป็นผู้พิการจากโรคเชื้อรา ได้รับขาเทียมครั้งแรกจากโครงการเฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ

วันที่ลงข่าว: 03/03/25

          วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีมอบแขน-ขาเทียม และอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการแก่คนพิการ  ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสครบรอบ 70 พรรษา เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้พิการแขน-ขาในพื้นที่ จ.นครพนม  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และมอบแขน – ขาเทียม พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องช่วยแก่คนพิการ โดยมีนายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม

          ผวจ.นครพนม กล่าวว่าการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ และการได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือความพิการที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับความพิการนั้น มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากอุปกรณ์เสริมหรือแขน-ขาเทียมเหล่านี้ จะเข้ามาทดแทนอวัยวะในส่วนที่ขาดหายไป ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้พิการสามารถทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง รวมทั้งออกไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมได้อย่างอิสระ สามารถกลับไปใช้ชีวิตไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีศักดิ์ศรีในการดำรงชีพ

          “กิจกรรมในโครงการนี้ ประกอบด้วย การตรวจประเมินความพิการ ผลิตและซ่อมบำรุงแขน-ขาเทียม ซึ่งได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 24 - 27 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้เข้ารับบริการจำนวน 87 ราย มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องช่วยการเดิน จำนวน 24 ราย ให้บริการออกบัตรคนพิการ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พมจ.ฯ) จำนวน 27 ราย โดยมีคนพิการเข้ารับบริการรวมทั้งสิ้น 138 รายการ จากการดำเนินงานในวันนี้ ทำให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจจากทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่อให้คนพิการแขนขา – ขาด ในจังหวัดฯ  ได้เข้าถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพและได้รับกายอุปกรณ์ แขน-ขาเทียม รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการอื่น ๆ ที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของคนพิการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง” นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม กล่าว

          ด้าน นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสุขภาพของประชาชน โดยมุ่งเน้นให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานวิชาชีพ อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม โดยเฉพาะคนพิการ ถึงแม้ว่าจะมีความบกพร่องทางร่างกาย ทำให้มีข้อจำกัดในการประกอบกิจวัตรประจำวัน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในสังคม แต่ยังคงมีศักยภาพในการช่วยเหลือตนเองหรือประกอบอาชีพ หากได้รับอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพที่ถูกต้องเหมาะสม

          ทั้งนี้ กรมการแพทย์ โดยสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงร่วมกับจังหวัดนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสครบรอบ 70 พรรษา เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตคนพิการแขน-ขา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมุ่งหวังให้คนพิการแขน-ขาในพื้นที่นครพนม ได้เข้าถึงการให้บริการผลิต ซ่อมบำรุง แขน-ขาเทียม และได้รับอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการอื่น ๆ ที่มีคุณภาพ โดยทีมสหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ แบบใกล้บ้าน ใกล้ใจ สามารถนำอุปกรณ์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างคนปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และพึ่งตนเองได้

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า นายอุทัย ตังเขีย อายุ 59 ปี ราษฎรชาวบ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม อาชีพเป็นเกษตรกร กลายเป็นคนพิการขาข้างขวา เนื่องจากลงแปลงทำนาแล้วติดเชื้อราโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือโรคเนื้อเน่า จนต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาอวัยวะส่วนใหญ่ ตั้งแต่ปี 2565 หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับขาเทียมมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับขาเทียมจากสถาบันสิรินธร แต่ต้องเอาไปใส่ที่บ้านเพื่อหัดเดินให้คุ้นเคย โดยทางด้าน นางสาวกุลธินี บัวเผื่อน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กล่าวว่าจะต้องมีการติดตามความคืบหน้าของเคสนี้อย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบให้ทาง รพ.สต.บ้านค้อ เข้าไปดูการพัฒนาการของผู้ป่วยรายนี้ เพราะตั้งแต่ตัดขามาก็ไม่เคยได้รับขาเทียมมาก่อน จึงต้องมีการทำกายภาพบำบัด และรายงานผลให้ทางสถาบันทราบ

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก