วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชน เทศบาลนครยะลา นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2567 (ประจำปีงบประมาณ 2568) เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคม ได้ร่วมกันสร้างสังคมที่เป็นธรรม เสมอภาค และเท่าเทียม เป็นสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีนางฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นางสุภาพร วุฒิศาสตร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้พิการ เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน

       นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในวันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล และทางจังหวัดยะลา โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา ได้จัดวันคนพิการสากลจังหวัดยะลา เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ของสังคมเกี่ยวกับคนพิการ และให้โอกาสคนพิการได้มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของสังคมอย่างสร้างสรรค์เป็นธรรม และเสมอภาคกับคนทั่วไป ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ได้จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันคนพิการสากลเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2568 นี้ ได้กำหนดประเด็นหลัก คือ ส่งเสริมการเป็นผู้นำคนพิการเพื่ออนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืน เพื่อสะท้อนถึงบทบาทสำคัญ ที่คนพิการในการสร้างโลกที่ครอบคลุมและยั่งยืนสำหรับทุกคน

        นางสุภาพร วุฒิศาสตร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันคนพิการสากล ตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ รวมถึงสร้างความตระหนักและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ร่วมกันสร้างสังคมที่เป็นธรรม เสมอภาค และเท่าเทียม เป็นสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การมอบกระเช้าที่ระลึกแสดงความยินดีให้แก่คนพิการต้นแบบจังหวัดยะลา มอบรถเข็นนั่งให้แก่คนพิการ ภายใต้โครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ จำนวน 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 70 คัน และมอบรถสามล้อโยกให้แก่คนพิการ จำนวน 5 คัน  พร้อจัดแสดงนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ โดยคนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ

       นอกจากนี้ นางฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นำสิ่งของอุปโภค บริโภค มอบให้กับคนพิการ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ และนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอนงานด้านอาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวัยแรงงาน โดยเฉพาะคนพิการวัยแรงงานที่จำเป็น ต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพ ทักษะอาชีพให้มีรายได้อย่างยั่งยืน อีกด้วย