กลุ่มเปราะบางบุรีรัมย์นำเงิน 10,000 บาทต่อยอดอาชีพ แนะคนที่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์
รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่ไม่สูบบุหรี่มากถึง 34 ล้านคน แต่กลับได้รับควันบุหรี่มือสองจากคนรอบตัวที่สูบบุหรี่ จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 ปี 2562 พบคนไทย ร้อยละ 70 ได้รับควันบุหรี่มือสอง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ขณะที่การสำรวจของอังกฤษ มีคนอังกฤษเพียงร้อยละ 30 ที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อีก 57 ประเทศ ไทยโดยเฉพาะผู้หญิงอายุ 15-49 ปีได้รับควันบุหรี่มือสองสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันมีหลักฐานงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์จากวารสารมะเร็งของอังกฤษ ปี 2567 ยืนยันแล้วว่าการสูดควันบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงถึง 1.24 เท่า ซึ่งมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของหญิงไทย
ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า เด็กเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองมากกว่าผู้ใหญ่ ในไทยพบเด็กอายุ 1- 5 ปี อาศัยในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่สูงถึง ร้อยละ 55 พบมากสุดในกรุงเทพฯ ถึงร้อยละ 62 ซึ่งงานวิจัยที่ศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง พบเด็กที่อาศัยในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่เสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคระบบหายใจส่วนล่างสูงขึ้นถึง 4 เท่า ข้อมูลจากรายงานภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย ปี 2562 คนไทยเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองสูงถึง 20,688 รายต่อปี เมื่อคำนวณภาระโรคจากการได้รับควันบุหรี่มือสองของคนไทย ดูจากค่าการสูญเสียปีสุขภาวะ หรือจำนวนปีที่เสียไปเพราะสุขภาพไม่ดี พิการ หรือเสียชีวิตก่อนวัย พบว่า การได้รับควันบุหรี่มือสองทำให้คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะถึง 534,186 ปี
ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ กล่าวว่า ผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้าต่อผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ เห็นผลได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งต่อระบบหายใจและหัวใจ มีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน แม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แต่การบังคับใช้กฎหมายยังทำได้ไม่ดี องค์การอนามัยโลกให้คะแนนไทยยด้านนี้เพียง 6 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน จึงอยากให้รัฐบาลเอาจริงกับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างจริงจัง เพื่อสามารถลดความเสี่ยงต่อการได้รับควันบุหรี่มือสองในคนไม่สูบลง