ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“ลุงหมี” ชายพิการหัวใจแกร่งปั่นวีลแชร์จากเชียงใหม่-นราธิวาส

วันที่ลงข่าว: 13/05/19

นราธิวาส - “ลุงหมี” ชายพิการแต่หัวใจแกร่ง ปั่นวีลแชร์จากเชียงใหม่สิ้นสุดนราธิวาสแล้ว ระดมซื้ออุปกรณ์แพทย์ให้ 3 โรงพยาบาลชายแดนใต้ เผยปี 61 ปั่นจากนราธิวาสไปเชียงใหม่ ระดมทุนช่วยเหลือโรงเรียนสำหรับเด็กพิการ 48 แห่ง 

          วันที่ 9 พ.ค.2562 จากกรณี นายสาธิต จันทะรังสี หรือลุงหมี วัย 56 ปี ชายพิการชาวพิษณุโลก ปั่นวีลแชร์ระดมทุนนำเงินบริจาคของประชาชนช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ จากจังหวัดเชียงใหม่ ถึงจังหวัดนราธิวาส เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์มอบให้แก่โรงพยาบาลสงขลา ปัตตานี นราธิวาส แห่งละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 3 ล้านบาท 

          โดยวันนี้ที่บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาส เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นายสาธิต จันทะรังสี หรือลุงหมี พร้อมด้วยวีลแชร์ และตัวแทนนักวิ่งชาวจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกันปั่นวีลแชร์ตามถนนภูผาภักดี ผ่านบริเวณอนุสรณ์สถานสัญลักษณ์นกสันติภาพ มุงหน้าไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร 

          โดยตลอดระยะทางได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม และร่วมบริจาคเงินให้แก่ลุงหมี ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ เพื่อร่วมสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ตลอดเส้นทาง และได้สิ้นสุดภารกิจปั่นวีลแชร์ ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ในครั้งนี้

          ทั้งนี้ นายสาธิต จันทะรังสี หรือลุงหมี เปิดเผยว่า แม้ตนจะพิการแต่ใจสู้เสมอ มุ่งมั่นที่จะปั่นวีลแชร์ระดมทุนนำเงินบริจาคของประชาชนช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ มาอย่างสม่ำเสมอ โดยเมื่อปี 2561 ได้ปั่นวีลแชร์จากหาดใหญ่ไปถึงเชียงใหม่ ได้ยอดบริจาคจากประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ 3.8 ล้านบาท ได้มอบเงินทั้งหมดให้โรงเรียนปัญญานุกูล สำหรับเด็กพิการ 48 แห่ง 

          และในปี 2562 นี้ ลุงหมีปั่นรถวีลแชร์จากเชียงใหม่-นราธิวาส รับบริจาคเงินระดมทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยโรงพยาบาลใต้ เป้าหมายจะสิ้นสุดที่โรงพยาบาลนราธิวาส โดยตั้งเป้าการรับบริจาคไว้ที่ 3 ล้านบาท แต่รายได้ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค.62 บริจาคทั้งสิ้น 1,136,611 บาท และจะยังเปิดบัญชีรับบริจาคจากนี้ไปอีก 1 เดือน 

          ผู้สนใจสามารถร่วมทำบุญกับลุงหมีได้ หรือโอนเงินเข้าสมทบทุนกับลุงหมี ได้ที่บัญชี นายสาธิต จันทะรังสี ธนาคารกรุงไทย สาขาโรงพยาบาลสงขลา บัญชีเลขที่ 677-8-51692-5 ก่อนจะสรุปปิดยอดทั้งหมด และนำเงินทั้งหมดส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลสงขลา ปัตตานี และนราธิวาสต่อไป

ที่มาของข่าว https://mgronline.com/south/detail/9620000044659
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก