ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไทยให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงของอาเซียนกับภูมิภาคและโลก ผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

วันที่ลงข่าว: 29/04/19

          นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไทยให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงของอาเซียนกับภูมิภาคและโลก ผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ทั่วถึงและยั่งยืน 

          พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโต๊ะกลมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ภายใต้หัวข้อ “ส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่อแสวงหาช่องทางใหม่สำหรับการเติบโต” ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติทะเลสาบเยี่ยนซี กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดย นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และประชาชนชาวจีนในโอกาสครบรอบ 70 ปี แห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้ พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้ริเริ่มยุทธศาสตร์ BRI ซึ่งไทยจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ 

         นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงของอาเซียนกับภูฟมิภาคและโลก ผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อยกระดับความเชื่อมโยงทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ทั่วถึงและยั่งยืน ที่จะเชื่อมโยงอาเซียนไปยังภูมิภาคต่างๆ ผ่านโครงการ BRI เพื่อเชื่อมโยงไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคใกล้เคียงทั้งทางบก อากาศ น้ำและทางราง ในรูปแบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ อาทิ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินหลัก (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา)โครงการพัฒนารถไฟทางคู่เชื่อมโยงจีน-ลาว-ไทย-กัมพูชา และโครงการระบบขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด 

         สำหรับการใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงต่างๆ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลักของ BRI ในการสร้างการเจริญเติบโตและขยายศักยภาพของประเทศที่มีส่วนร่วมนั้น ควรส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันและขยายตลาดให้ภาคธุรกิจ ทั้งธุรกิจ ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก การอำนวยความสะดวกการค้า การลงทุน และการประกอบธุรกิจระหว่างกัน โดยสร้างความเชื่อมโยงทางสถาบันและกฎระเบียบ ด้วยการขับเคลื่อนให้แผนแม่บทอาเซียนว่าด้วยความเชื่อมโยง 2025 และแผนแม่บท ACMECS 2019-2025 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม  การจัดตั้งแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืนจะช่วยสนับสนุนโครงการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นแนวคิดของสมาชิก ACMECS ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ BRI ผลประโยชน์ของการเชื่อมโยงจะต้องตกอยู่กับพลเมืองมากที่สุด จึงควรเน้นการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 

         นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ทุกประเทศจะสามารถร่วมมือกันส่งเสริมความเชื่อมโยงตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ BRI เพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ ความมั่งคั่งและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อภูมิภาคและต่อโลกต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก