ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ผู้สูงอายุไทยยังถูกละเมิดสิทธิ์ เร่งดัน "ผู้พิทักษ์คุ้มครองผู้สูงอายุ"

วันที่ลงข่าว: 19/04/19

          สสส. ดัน “ผู้พิทักษ์” คุ้มครองผู้สูงอายุ เป็นของขวัญวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เร่งพัฒนากลไกเฝ้าระวังผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงถูกละเมิดสิทธิครอบคลุมทุกพื้นที่ หลังวิจัยพบผู้สูงอายุไทยถูกละเมิดสิทธิ์ เผชิญความรุนแรงทางจิตใจมากสุด ถูกทอดทิ้งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อึ้งส่วนใหญ่ลูกหลานคนใกล้ชิดหลอกลวง

         นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” ภายใต้ธีม “ก้ม กราบ กอด: สังคมผู้สูงอายุไร้ความรุนแรง” แต่กลับพบว่าสถานการณ์ความรุนแรงและละเมิดสิทธิผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ข้อมูลจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ คดีอาญาตั้งแต่ปี 2544-2558 พบว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีคดีอาญาเรื่องฉ้อโกงทรัพย์สิน ลักทรัพย์และปล้นทรัพย์ เพิ่มขึ้นเป็นลําดับ จากปี 2548 มี จํานวนผู้เสียหาย 73 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 243 รายในปี 2549 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2558 มีผู้เสียหายจํานวน 703 ราย สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการถูกละเมิดสิทธิมากคือผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว ไม่มีลูกหลาน หรือไม่มีครอบครัว มีความเจ็บป่วย ต้องการพึ่งพาผู้อื่น ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เต็มที่ สสส. ได้สนับสนุนมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) ศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุใน 6 ประเด็นสำคัญโดยมีข้อค้นพบในการพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง พิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย และการดูแลทรัพย์สินของผู้สูงอายุ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะหนุนเสริมการดูแล พิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุ รวมทั้งได้ข้อเสนอแนวทางดำเนินการคุ้มครอง พิทักษ์ผู้สูงอายุโดยการพัฒนากลไกเฝ้าระวังผู้สูงอายุที่ถูกละเมิดสิทธิ หรือกลุ่มเสี่ยงอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ การสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคม รวมคนทุกกลุ่มวัย ตลอดจนชมรมผู้สูงอายุ สร้างความเข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพ ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับระเบียบวาระแห่งชาติ เรื่อง สังคมผู้สูงอายุ ภายใต้มาตรการการสร้างระบบคุ้มครองและสวัสดิการผู้สูงอายุ ซึ่ง กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ

         “สสส. และภาคีเครือข่าย ได้เสนอข้อมูลและข้อเสนอเชิงนโยบายนี้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นของขวัญให้ผู้สูงอายุและรองรับสังคมสูงอายุของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับสังคมในประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงต่อผู้สูงอายุ เพื่อช่วยกันสอดส่อง ดูแล และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบการกระทำความรุนแรง และละเมิดสิทธิผู้สูงอายุให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างและภัย มีศักดิ์ศรี เป็นพลังให้สังคม”นางภรณีกล่าว

          รศ.ดร.จิราพร เกศพิชญวัฒนา อาจารย์ประจำคณะพยายาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการศึกษาสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับความรุนแรงและการละเมิดสิทธิต่อผู้สูงอายุในบริบทของสังคมไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2551 - 2559 พบว่า ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิต่อผู้สูงอายุ ที่พบมากที่สุดยังคงเป็นเรื่องการกระทำรุนแรงทางด้านจิตใจ รองลงมาคือ การทอดทิ้งละเลย ไม่ดูแล หรือให้การดูแลไม่เหมาะสม ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย หรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ตามด้วยการเอาประโยชน์ด้านทรัพย์สินเงินทอง หลอกลวง ในส่วนการถูกกระทำรุนแรงทางจิตใจ พบบ่อยที่สุดในชุมชน เพราะกระทบกระทั่ง สื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ปัญหาสัมพันธภาพระหว่างผู้สูงอายุและบุตรหลาน หรือบุคคลในครอบครัวทำให้ผู้สูงอายุเสียใจ น้อยใจ โกรธ โมโห เนื่องจากผู้สูงอายุรู้สึกหรือรับรู้ว่าบุตรหลานไม่เชื่อฟัง พูดไม่ดี บ่น เถียง ด่า หรือไม่ได้ดั่งใจ ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกตนเองด้อยค่า เป็นภาระกับลูกหลาน รวมไปถึงการมีปฏิกริยาโต้ตอบ มีปากเสียง ทะเลาะกัน ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงด้านอื่น เช่น การการทอดทิ้ง การที่ผู้สูงอายุอยู่กับครอบครัวไม่ได้ ไปจนถึงการทำร้ายทางร่างกาย

 

 

ที่มาของข่าว https://mgronline.com/qol/detail/9620000037680
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก