ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สสช.เผยผลสำรวจความพิการปี60 พบผู้พิการในไทย3.7ล้านคน

วันที่ลงข่าว: 29/03/19

          สสช.ผนึก ยูนิเซฟ เผยผลสำรวจความพิการ เร่งเก็บข้อมูลสะท้อนสถานการณ์ของผู้พิการของประเทศไทย หวังนำผลสำรวจไปใช้กำหนดนโยบายการช่วยเหลือของรัฐบาล

วันที่ 29 มี.ค.2562 ที่โรงแรม รอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง นายภุชพงค์  โนดไธสง  ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ผลการสำรวจความพิการ พ.ศ. 2560 สสช. ได้ดำเนินการสำรวจความพิการเป็นประจำทุก 5 ปี สำรวจมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2545 2550 และ 2555 สำหรับการสำรวจปี 2560 นี้เป็นครั้งที่ 4  เก็บรวบรวมข้อมูลเดือนต.ค.- ธ.ค.พ.ศ.2560 จากครัวเรือนตัวอย่าง 109,000 ครัวเรือน เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประชากรพิการ ได้แก่ ข้อมูลภาวะสุขภาพ สวัสดิการ การใช้เครื่องช่วย การใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งข้อมูลผู้ดูแลของประชากรพิการที่มีความลำบากในการดูแลตนเอง

ทั้งนี้ พบว่า ประเทศไทยมีประชากรพิการประมาณ 3.7 ล้านคน (5.5%) ของประชากรทั่วประเทศ โดยพบผู้หญิงมีร้อยละของผู้พิการสูงกว่าผู้ชายเล็กน้อย (5.7% และ 5.2% ตามลำดับ) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป 20.6%  นอกจากนี้ยังพบว่า นอกเขตเทศบาลมีร้อยละประชากรพิการมากกว่าในเขตเทศบาล 6.2% และ 4.5% ตามลำดับ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีประชากรพิการสูงกว่าภาคอื่น 7.0% และ 6.5% และเมื่อพิจารณาตามลักษณะความพิการ พบว่า เป็นประชากรที่มีความลำบากหรือปัญหาสุขภาพที่เป็นข้อจำกัดในการทำกิจกรรม 4.1% หรือประชากรที่มีลักษณะความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ หรือสติปัญญา มี 4.2% สำหรับประชากรที่มีทั้ง 2 ลักษณะ คือมีความลำบาก/ปัญหาสุขภาพ และลักษณะความบกพร่อง มี 2.8% (1.9 ล้านคน)

          จากการสำรวจการเข้าถึงความช่วยเหลือหรือสวัสดิการของรัฐและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ พบว่า ประชากรพิการเกือบทุกคนได้รับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลหลักของรัฐ (98.5%) ประชากรพิการได้จดทะเบียนคนพิการ 44.4% ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ 43.8% และมีเพียงเล็กน้อย 0.6% ที่จดทะเบียนแล้วแต่ยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ ซึ่งอาจจะอยู่ในระหว่างดำเนินการหรือยังไม่ได้ยื่นขอรับเบี้ยยังชีพคนพิการ สำหรับประชากรพิการที่ไม่ได้จดทะเบียนคนพิการมีมากกว่าครึ่ง (55.6%) ทั้งนี้เนื่องจากไม่ต้องการจดทะเบียน หรือความพิการไม่อยู่ในระดับที่จดทะเบียนได้ซึ่งมีค่อนข้างมากถึง 48.0% และมีอีกเพียงเล็กน้อย 7.6% ที่ไม่ได้จดทะเบียนคนพิการ เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียน เดินทางไม่สะดวก เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีประชากรพิการอีก 15.1% มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยแต่ไม่มี และผู้พิการ 1 ใน 5 (21.2%) ต้องการความช่วยเหลือหรือสวัสดิการจากรัฐแต่ยังไม่ได้รับ ซึ่งความช่วยเหลือที่มีความต้องการมากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ การสนับสนุนผู้ช่วยคนพิการ การกู้ยืมเงินเพื่อประกอบอาชีพ การส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และการให้คำแนะนำปรึกษา 

 

          นอกจากนี้ พบว่าเด็กพิการวัยเรียนอายุ 5-17 ปี มีถึง 37.8% ที่ปัจจุบันไม่ได้เรียน (รวมเด็กที่ไม่เคยเรียนหรือเคยเรียนแต่ปัจจุบันไม่ได้เรียน) ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่เนื่องจากป่วยหรือพิการจนกระทั่งไม่สามารถเรียนได้  รองลงมา คือ จบการศึกษาแล้ว และมีปัญหาทางความประพฤติ เป็นต้น สำหรับประชากรพิการวัยแรงงาน (อายุ 15-59 ปี) เพียง 40.6% ที่มีงานทำ ส่วนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของประชากรพิการอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนน้อยมาก คือ ผู้พิการที่ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมีเพียง 5.8% และ 9.2% ตามลำดับ  

 

ที่มาของข่าว https://www.dailynews.co.th/it/701213
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก