ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

วิ่งด้วยกันเพื่อคนพิการ ลดช่องว่างทางสังคม

วันที่ลงข่าว: 18/12/18

          วิ่งด้วยกันเพื่อคนพิการ – ความตื่นตัวใส่ใจให้สุขภาพมากขึ้น ทั้งการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการออกกำลังกาย ทำให้เราเห็นงานวิ่งต่างๆ จัดขึ้นมากมาย รวมถึงการเข้าร่วมวิ่งของคนพิการ ด้านต่างๆ ที่มักจะมาพร้อมไกด์รันเนอร์เพื่อร่วมกิจกรรม

          อย่างไรก็ตาม ยังมีคนพิการอีกมากที่อยากจะมาร่วมกิจกรรมการวิ่ง อยากออกกำลังกาย แต่ยังไม่มีโอกาสเนื่องด้วยการร่วมกิจกรรมกับคนทั่วไปนั้น อาจจะยังไม่มีการอำนวยความสะดวกที่เพียงพอให้แก่ผู้พิการ

ดังนั้น บริษัท กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จึงร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ บริษัท กล่องดินสอ จำกัด จึงร่วมกันจัดงาน “วิ่งด้วยกัน ครั้งที่ 4 เดอะแชมเปี้ยน” งานวิ่งที่เปิดโอกาสให้คนพิการและไม่พิการได้วิ่งไปด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่คนพิการและคนไม่พิการสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

           งานในกรุงเทพฯ ดีเดย์ไว้แล้ววันที่ 10 มี.ค.2562 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ ส่วน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน อุดรธานี ชลบุรี ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ทยอยจัดมาตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนธันวาคม 2561

งาน “วิ่งด้วยกัน ครั้งที่ 4 เดอะแชมเปี้ยน” เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อผู้พิการในด้านต่างๆ มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมวิ่งมาราธอน เพราะในหลายครั้งงานวิ่งทั่วไปนั้นมักจะมีข้อจำกัดต่างๆ ของคนพิการ เป็นงานที่ทำให้ผู้พิการมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะมาร่วมกิจกรรมเพราะเพื่อนๆ รอบตัวก็ล้วนเป็นผู้พิการและไกด์รันเนอร์เช่นเดียวกัน

          นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. สนับสนุนโครงการด้วยกันเพื่อส่งเสริมและผลักดันให้คนพิการมีสุขภาวะดีใน 4 มิติ คือ กาย สังคม เศรษฐกิจ และปัญญา ที่ผ่านมาเราได้สนับสนุนในหลายโครงการของคนพิการ เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้เขาได้ทำในหลายๆสิ่งกับคนทั่วไป เพราะสสส.เห็นความสำคัญในการอยู่ร่วมกัน ผู้พิการทุกคนล้วนต้องการการยอมรับ เราต้องให้เขาได้เห็นว่าไม่มีความต่างในสังคม เขาไม่ได้แปลกแยกจากเรา

          “งานวิ่งด้วยกันเป็นการส่งเสริมการ มีกิจกรรมทางกาย ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และการทำงานของสสส. ที่มุ่งเน้นการสร้างกระแสการตื่นตัว สร้างองค์ความรู้ และการผลักดันนโยบายด้านการส่งเสริมสุขภาพ ในประชาชนทุกช่วงวัย” นางภรณีกล่าว

นางภรณีกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจากคนพิการที่มาร่วมวิ่งและคนไม่พิการที่มาเป็นไกด์รันเนอร์ นอกจากจะสร้างเสริมสุขภาพดีให้กับคนพิการแล้ว ยังทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อคนพิการ ได้เห็นศักยภาพของคนพิการที่ก้าวข้ามข้อจำกัดทางร่างกาย ช่วยให้คนพิการและไม่พิการเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชน แสดงให้เห็นถึงทิศทางของสังคมไทยที่เริ่มเปิดโอกาสในคนพิการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอย่างเท่าเทียม

          การวิ่งของผู้พิการไม่ใช่เรื่องง่าย ไกด์รันเนอร์ที่วิ่งด้วยกันจะต้องรู้จังหวะกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าจะมีการบอกให้หยุด บอกให้วิ่งได้อย่างไร เพราะผู้พิการแต่ละคนจะไม่เหมือนกันมีความพิการคนละด้าน เช่น ผู้พิการทางสายตา ทางการได้ยิน หรือพิการทางขาแขน แต่เป็นการดีที่เราจะสามารถหาประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้การอยู่ร่วมกันระหว่างคนทั่วไปและคนพิการ

           ด้าน นายมาโนช รุ่งเรืองอเนกคุณ นักวิ่งพิการทางการเห็น แชมป์ระยะ 10 กิโลเมตร ประเภทนักวิ่งพิการทางการเห็นงานวิ่งด้วยกัน ปี 2561 เล่าประสบการณ์การเข้ามาร่วมวิ่งด้วยกันว่า เมื่อตอนตามองไม่เห็นช่วงแรกไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน เพราะกลัวอันตราย จะไปก็แค่ไปทำงานและกลับบ้าน และจะมีเพื่อนหรือคุณแม่พาไปเสมอ แต่เมื่อได้มาเริ่มวิ่งกับกลุ่มวิ่งด้วยกัน ทำให้มั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าเดินทางคนเดียว และรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

           “นอกจากนี้ ยังได้รู้จักเพื่อนใหม่ทั้งที่เป็น คนพิการด้วยกันและคนไม่พิการ อย่าง ‘แนน’ น.ส.จันทนี รัตนะบรรเจิด ซึ่งเป็นไกด์รันเนอร์ ที่พาฝึกซ้อมเป็นประจำ ที่ช่วยให้ได้แชมป์ของงานวิ่งด้วยกันในครั้งที่ผ่านมา ในครั้งนี้ผมก็ เตรียมตัวซ้อมเป็นอย่างดี เพื่อรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้” นายมาโนชกล่าว

           ยังมีกิจกรรมดีๆ อีกมากมายที่คนทั่วไปอย่างเราๆ สามารถทำได้ แต่ยังไม่เปิดโอกาสมากนักสำหรับผู้พิการ ดังนั้นหากต่อไปหลายๆ หน่วยงานให้ความสำคัญ สามารถจัดกิจกรรมที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการที่อยากมาร่วมงานด้วยได้ หรือให้งานผู้พิการมีโอกาสเช่นคนทั่วไป ก็จะลดช่องว่างในสังคมได้อีกมาก ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น เมื่อเราใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างปกติ

 

โดย : ธีรดา ศิริมงคล

ที่มาของข่าว https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_1940814
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก