ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ประชาชนชาวสงขลานับหมื่นคน พร้อมใจส่วมใส่เสื้อเหลืองร่วมปั่นจักรยาน "Bike อุ่นไอรัก ท่ามกลางบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน เพื่อแสดงถึงพลังความรัก ความสามัคคีของชาวสงขลา

วันที่ลงข่าว: 10/12/18

           วันที่ 9 ธ.ค. 61 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาพร้อมด้วยนางอัญญาณี เพ็งจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร ชมรมปั่นจักรยาน นักปั่นพิการ และประชาชนทั่วไป กว่า 13,000 คน สวมเสื้อพระราชทานและปั่นจักรยานคู่ใจ ร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก” ซึ่งนักปั่นทุกคนได้เตรียมความพร้อมร่างกาย เครื่องแต่งกายรวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุระหว่างการปั่นจักรยานในครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งต่างมุ่งมั่น ตั้งใจเพื่อแสดงออกถึงความสามัคคีและความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

           โดยขบวนเริ่มบนถนนราชดำเนิน บริเวณฝั่งหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลาแล้วปั่นไปตามเส้นทางชายหาดชลาทัศน์, แยกเก้าเส้ง, มหาวิทยาราชภัฏสงขลา, มหาวิทยาลัยทักษิณ มุ่งหน้าไปยังห้าแยกน้ำกระจาย และเข้าสู่ถนนสงขลา-ระโนด ผ่านสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์และแวะพักร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ต้นสะเดาเทียมต้นไม้ประจำจังหวัดสงขลาและต้นพยอม นำโดยนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางอัญญาณี เพ็งจันทร์นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

           จากนั้นเริ่มปั่นต่อไปตามเส้นทาง ผ่านสะพานติณสูลานนท์ จนไปถึงจุดกลับตัวที่วัดแหลมพ้อแล้ววกกลับมาเข้าสู่แยกศาลปกครองผ่านถนนท่าสะอ้าน, สวน 72 พรรษา, ประตูเมืองสงขลา, ถนนนครนอก, โรงสีแดง และมุ่งไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสงขลา, พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์สงขลา ผ่านพระพุทธศรีสงขลานครินทร์แล้วมาสิ้นสุดขบวนที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร

           ทั้งนี้ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยาน "Bike อุ่นไอรัก มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อส. และคณะผู้ดูแล (มาร์แชล) คอยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ อาสาสมัครกู้ภัย คอยดูแลด้านการปฐมพยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการให้บริการน้ำดื่มพระราชทาน จำนวน 19, 500 ขวด บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดและน้ำดื่มระหว่างเส้นทางการปั่นอีกด้วย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก