ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เหยื่อชมรมอมเงินพิการ ม.35 กาฬสินธุ์แจ้งความถูกยักยอกเพิ่ม

วันที่ลงข่าว: 12/11/18

           ผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาในจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งความเอาผิดประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการฯ หลอกให้สมัครเป็นสมาชิกชมรม ก่อนยึดบัตรเอทีเอ็มและสมุดเงินฝาก ปกปิดรายได้ต่อปีกว่าแสนบาท แต่จ่ายให้เพียง 5,000 บาท ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ระบุดีเดย์สัปดาห์หน้า ลงพื้นที่สางปมปัญหาร้องเรียน

          จากกรณีผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ โครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา  35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง  เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์ตรวจสอบ ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กำกับดูแล ล่าสุด นายปรีดา  ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เดินทางมาติดตามผลการตรวจสอบจากทาง จ.กาฬสินธุ์ และนางฐานิดา อนุอัน ผู้ร้องเรียนหมายเลข 1 เรียกร้องคนพิการออกมาทวงสิทธิ์ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

          ล่าสุด วันที่ 11 พฤศจิกายน 2561  ที่ สภ.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ นางสาวรินดา ธะระพันธุ์ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 7 ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ผู้ปกครองเด็กชายปฐมพงษ์  อินทรวงค์ เด็กพิการทางสติปัญญา วัย 6 ขวบ พร้อมด้วยคณะกรรมการเครือข่ายคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุนทร  พรรณขาม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ดอนจาน ระบุถูกชมรมผู้ปกครองทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ หลอกให้เปิดบัญชีและทำบัตรเอทีเอ็ม ปกปิดค่าจ้าง และยักยอกเงินรายได้จ้างเหมาดูแลคนพิการ จำนวนกว่า 1 แสนบาท

          นางสาวรินดากล่าวว่า ตนสมัครเป็นผู้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ในปี 2560 กับชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ แต่ถูกปิดกั้นข้อมูลรายได้ ทั้งยังถูกชมรมฯ เก็บสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มไว้ ก่อนที่ประมาณเดือนตุลาคม 2560 มีกรรมการชมรมคนหนึ่ง นำเงินใส่ซองมาให้ จำนวน 5,000 บาท บอกว่าเป็นค่าน้ำหมึกปากกา ที่เซ็นชื่อสมัครเป็นสมาชิกชมรม

“พอมีข่าวออกมาว่า มีผู้ปกครองคนพิการ ออกมาร้องเรียนค่าจ้างมาตรา 35 จึงได้รู้ความจริงว่า จริงๆแล้วสิทธิของตนถูกเบียดบังไปจำนวน 104,500 บาท โดยที่ผ่านมาไม่รู้เกี่ยวกับรายละเอียดในสัญญาและรายได้เลย เนื่องจากชมรมไม่เคยชี้แจง นอกจากจะบอกว่า ให้พาลูกมาร่วมกิจกรรมที่ชมรมสัปดาห์ละ 3 วัน ซึ่งจะได้ค่าจ้าง  1,000  บาท 1 เดือนมา 12 วัน ได้ค่าจ้างรวม 4,000 บาท แต่เนื่องจากตนอยู่ต่างอำเภอ ไม่สะดวกพาลูกมาเข้าชมรม จึงมาคนเดียวบ้าง ตามที่ทางชมรมบอกให้มา ซึ่งไม่มีกิจกรรมอะไรมาก นอกจากมาคอยต้อนรับเจ้าหน้าที่ เวลามาตรวจเยี่ยม และมาถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้ปกครองคนพิการเป็นบางครั้งเท่านั้น ไม่ได้ทำงานหรือบำบัดรักษาอาการพิการทางสติปัญญาของลูกให้ดีขึ้นเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบในตอนหลังว่าถูกหลอกดังกล่าว จึงได้ออกมาร้องเรียนต่อเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการฯ และแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน” นางสาวรินดากล่าว

          ด้าน ร.ต.อ.สุนทร พรรณขาม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ดอนจาน กล่าวว่า หลังได้รับแจ้ง เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งจะได้ดูรายละเอียดของ มาตรา 35 ประมวลเข้ากับคำร้องทุกข์ เพื่อประกอบการพิจารณาสำนวนว่าประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ มีพฤติการณ์เข้าข่ายหลอกลวง ยักยอก หรือฉ้อโกงหรือไม่ หลังจากนั้นจะได้เรียกทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

          ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเครือข่ายคนพิการ ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ว่าถูกยักยอกเงินค่าจ้าง ตามมาตรา 35 ในปี 2560 และ 2561จากทั้งหมด 20 ราย ได้ออกมาร้องเรียน 9 ราย (บางคนสัญญาต่อเนื่อง 2 ปี) ขณะที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ 5 ราย คือที่ สภ.สหัสขันธ์ 1 ราย สภ.หนองกุงศรี 1 ราย สภ.เมืองกาฬสินธุ์ 2 ราย และ สภ.ดอนจาน 1 ราย

          ล่าสุด ได้รับแจ้งจากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการส่วนกลาง ว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการเป็นที่เรียบร้อย และผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสำนวนร้องเรียนแล้ว ซึ่งจะได้จัดเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ต่อไป ดีเดย์ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะสามารถชี้มูลความผิดได้

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/region/131258
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก