ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เครือข่ายคนพิการกาฬสินธุ์บุกศูนย์ดำรงธรรม ขอคำตอบสอบโกงเงินค่าจ้างดูแลคนพิการ

วันที่ลงข่าว: 02/11/18

          กาฬสินธุ์-ข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ นำผู้ปกครองคนพิการกาฬสินธุ์ร้องสิทธิ์ ขอคำตอบผลสอบประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการฯ ยักยอกเงินค่าจ้างเหมาดูแลคนพิการ ชี้หน่วยงานรัฐยังป้องคนผิด ระบุทั่วประเทศเกิดปัญหาลักษณะนี้ รวมเงินกว่า 1,500 ล้าน

          จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ยักยอก ด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมอบหมายนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กำกับดูแลตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

          ล่าสุดวันนี้ (1พ.ย.61) ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการพร้อมคณะ และนางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 บ้านเสริมชัยศรี ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ร้องเรียนและตัวแทนผู้ปกครองคนพิการ 10 คน นำหนังสือร้องเรียนเรียกร้องสิทธิ์ให้คนพิการ มายื่นต่อนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มีนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์, พ.อ.มานพ ไขขุนทุด รอง ผอ.กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์, นายไชยา เครือหงส์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ และผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)กาฬสินธุ์ เป็นผู้รับเรื่อง

          นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ กล่าวว่าตามที่นางฐานิดา หนึ่งในผู้ร้องเรียน ได้รับสิทธิ์จากชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ทำสัญญากับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณลงมาเพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยการสร้างงานสร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวคนพิการให้ดีขึ้น ด้วยโครงการจ้างเหมาผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 ผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัด และพมจ.กาฬสินธุ์ โดยมีชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ เป็นที่ทำการและดำเนินการ

          แต่จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ได้รับสิทธิ์มาตรา 35 กรณีได้รับค่าจ้างไม่ครบตามที่ระบุในสัญญา คือเดือนละ 9,125 บาท หรือปีละ 109,500 บาท แต่ได้รับจริงเพียง 2,000-4,000 บาท ที่สำคัญทางชมรมฯ ยังเก็บสมุดเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม และทำข้อตกลงขึ้นมาใหม่กับผู้รับจ้าง

          ทั้งนี้จ.กาฬสินธุ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบด้วย แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่สามารถหาคนมารับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่มีความผิดชัดเจน และสั่งยกเลิกใบอนุญาตตั้งชมรมฯ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2561 ล่าสุดทราบว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้รับแจ้งว่าทางคณะกรรมการตรวจสอบ ได้ประชุมเพื่อไกล่เกลี่ย และยุติเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยภาพรวมมีความพยายามที่จะให้ผู้ร้องเรียนเป็นฝ่ายผิด ขณะที่ทางชมรมฯยังไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ

          นางชนัญชิดา ลิ้มนนทกุล เลขานุการเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์ฯ กล่าวว่า ส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเอง ยังมีพฤติกรรมเข้าข้างชมรมฯ มีความพยายามจะบิดเบือนข้อมูลจริง เข้าข้างผู้กระทำผิด แทนที่จะช่วยกันโอบอุ้มดูแลคนพิการ กลับไปเอื้อทางชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์มองว่าไม่ถูกต้อง จึงเดินทางมายื่นหนังสือ กรณีคนพิการและผู้ดูแลคนพิการถูกละเมิดสิทธิ์ ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรม จากขบวนการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับจังหวัดเกี่ยวข้อง โดยร้องเรียนต่อนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ให้คนพิการและผู้รับจ้างตามมาตรา 35 ให้ตรวจสอบ

          กรณีที่เกิดขึ้นกับผู้พิการ หรือเงินกองทุนเกี่ยวกับผู้พิการต่างๆ ทางเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทั่วประเทศประมาณ 40-50 ราย ขณะที่มีวงเงินที่สูญหายประมาณ 1,500 ล้านบาท

          ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่าทางจังหวัดได้รับรายงานเรื่องนี้มาตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2561 ซึ่งนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมอบหมายให้สำนักงาน พมจ.เป็นประธานกรรมการฯ เรื่องยังอยู่ขั้นตอนตรวจสอบของคณะกรรมการ ซึ่งจะเร่งติดตามผลดำเนินการและพิจารณาหาข้อยุติโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการต้องได้รับเอาใจใส่

ที่มาของข่าว https://mgronline.com/local/detail/9610000109224
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก