ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นายอำเภอหนองจิกพร้อมทหารลงแก้ปัญหาของชาวบ้านหลังเจอน้ำท่วมขังรอบบ้าน

วันที่ลงข่าว: 02/11/18

          ปัตตานี - นายอำเภอหนองจิก พร้อมทหารลงพื้นที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัว นางปาตีเมาะ มะแซ ที่ได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมขังรอบบริเวณบ้านเมื่อเกิดฝนตกหนัก ทำให้การเข้าออกเป็นเรื่องลำบาก

          วันที่ 1 พ.ย.2531 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังนานเป็นปีให้แก่ครอบครัว นางปาตีเมาะ มะแซ ชาวบ้านบ้านปากาจีนอ ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ยังไม่ได้รับการแก้ไขและช่วยเหลืออย่างจริงจัง

          ล่าสุด นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนองจิก และในฐานะ ผอ.ศปร.อ.หนองจิก ร่วมให้การต้อนรับ พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.ธีระ ศรีพงษ์ หน.กร.มทบ.46 และ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 ลงพื้นที่เยี่ยม นางปาตีเมาะ มะแซ อายุ 55 ปี เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีน้ำท่วมขังบริเวณบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เมื่อมีฝนตกหนัก หรือได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งจะทำให้บริเวณบ้านเกิดน้ำท่วมขัง

ศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่อำเภอหนองจิก ได้นำนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก เดินเท้าเข้าให้ความช่วยเหลือทันที สรุปแนวทางการให้ความช่วยเหลือได้ดังนี้

          1.ทำคันกั้นด้านหลังบ้านเพื่อไม่ให้น้ำจะคลองตุยงไหลเข้าท่วมบริเวณบ้าน

           2.ปรับปรุงเส้นทางหน้าบ้านเพื่อให้สามารถใช้สัญจรไปมาได้

          ในส่วนของงบประมาณ และแผนการดำเนินงานจะได้มอบหมายให้ทาง อบต.ดอนรัก นำไปพิจารณาตามระเบียบข้อกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ในส่วนของเจ้าของบ้านเมื่อได้รับความช่วยเหลือแล้วเกิดความพึงพอใจ ในการนี้ ผบ.ฉก.ปัตตานี และ นอ.ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ นางปาตีเมาะ มะแซ สำหรับใช้ในครัวเรือนต่อไป ณ บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 6 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

          การเข้ามาของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เพื่อรับทราบปัญหาและร่วมกันหาทางออกในการให้ความช่วยเหลือ ทำให้ นางปาตีเมาะ มะแซ หญิงหม้ายวัย 55 ปี ตื้นตันดีใจจนน้ำตาไหล หลังจากเริ่มมีความหวังมากขึ้น จึงฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือและไม่ทอดทิ้งครอบครัวเราที่ยากจน

          นอกจากนั้น ลูกชายคนโตของ นางปาตีเมาะ ไม่สบายป่วยเป็นคนพิการทางสมองตั้งแต่เด็ก และยังมีหลานกำลังเรียนชั้นอนุบาลอีก 2 คนที่ต้องนั่งเรือออกจากบ้านเพื่อขึ้นรถที่ถนนหน้าบ้าน โดยมี นางปาตีเมาะ และลูกชายคนนี้ต้องช่วยกันเข็นเรือทุกวันทั้งเช้าและเย็น เพื่อส่งและรับน้องกลับจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในพื้นที่ยะรัง ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำมาหลายปีแล้ว

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก