นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา ระหว่างวันที่ 29 - 30 ตุลาคมนี้ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมภาคใต้

             พันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่านายกรัฐมนตรีมีกำหนดการตรวจราชการในพื้นที่นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา ระหว่างวันที่ 29 - 30 ตุลาคมนี้

โดยในวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561 เวลา 07.00 น.นายกรัฐมนตรี จะเดินทางจากกองบินท่าอากาศยาน 6 (บน.6 ) ไปถึงจังหวัดพะเยา เวลา 10.00 น. เพื่อพบปะประชาชน ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ เทศบาลเมืองพะเยาและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินในชุมชนตามลักษณะแปลงรวม

             จากนั้นเยี่ยมชมตลาดประชารัฐและเยี่ยมศูนย์โฮมฮักดูแลสุขภาพผู้พิการและผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง พร้อมพบปะประชาชนและไปประตูระบายน้ำกว๊านพะเยา ภายใต้โครงการพัฒนาอย่างยั่งยืนและจะปล่อยพันธุ์ปลา ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการฝายพับได้

              ช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.นายกรัฐมนตรี ไปจังหวัดเชียงราย พบประชาชนที่หมู่บ้านเมืองรวม อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรือที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้ประธานป่าชุมชน 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา และจังหวัดแพร่ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี จะพบปะกับประชาชนและปล่อยพันธ์ุปลา จำนวน 5 หมื่นตัวด้วย

จากนั้นในเวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปศูนย์แพทย์ศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการศูนย์รังสีรักษา

              พันเอกหญิง ทักษดา กล่าวว่า สำหรับกำหนดการในช่วงเช้าวันอังคารที่ 30 ตุลาคม ในตอนเช้านายกรัฐมนตรี จะถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี ที่วัดพระแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และสักการะพระแก้วมรกต

เวลา 08.00 น. เริ่มการประชุมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (กรอ.)กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 2 ที่หอประชุมใหญ่ราชภัฎเชียงราย หลังจากนั้นจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นอกสถานที่ อย่างเป็นทางการ และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 15.00 น.

นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการที่ประชุม ครม.วันนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมการให้พร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ในช่วงนี้จะมีฝนตกหนักและคลื่นสูง พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนอย่างทั่วถึงด้วย