3 นักซิ่งวีลแชร์ทีมชาติไทย สุดแกร่งซิ่งเข้าเส้นชัย 3 คนรวดเหมาเหรียญรางวัลรายการ วีลแชร์ 1,500 ม. ชาย ที 53 โดย ประวัติ วะโฮรัมย์ ซิ่งเข้ามาเป็นคนแรกคว้าทองไปครอง“จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” ชี้นักกรีฑาหน้าใหม่มีโอกาสพัฒนาไปคว้าเหรียญพาราลิมปิกเกมส์2020 ได้ไม่ยาก

          การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์2018 ที่ กรุง จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาพาราไทย  ยังเดินทางทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อย่างต่อเนื่องอีก 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2  เหรียญทองแดง 

          โดย กรีฑา รายการวีลแชร์ 1,500 ม. ชาย T 54  ที่มี   ประวัติ วะโฮรัมย์ , เรวัตร์ต๋านะ และ ภูธเรศ คงรักษ์ 3 นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยลงล่าเหรียญทองในรายการนี้ และผลปรากฎว่า 3 นักวีลแชร์ไทย สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนือชั้นฉีกขึ้นนำเป็นกลุ่มพร้อมกัน 3 คน และเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญรางวัลในรายการนี้ได้ทั้ง 3คน โดยเหรียญทองเป็นของ ประวัติ  ที่ซิ่งเข้ามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา  3 นาที 14.54 วินาที , เหรียญเงิน ภูธเรศ สถิติ 3 นาที 14.65 วินาที และ ทองแดง เรวัตร์ต๋านะ 3 นาที 14.88 วินาที  ขณะเดียวกันทีมนักกรีฑาพาราไทย  ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองเพิ่มได้ 1 เหรียญเงิน จาก ทรงวุธ ลำสัน  ในประเภท วิ่ง 400 ม. ชาย T13  สถิติ 52.00 วินาที

          วิ่ง 400 เมตรหญิง ที 12 พิการทางตา มีนักกีฬา 4 ชาติ ได้แก่ อิหร่าน , เวียดนาม , อินเดีย และ ไทย โดย สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงศ์ พร้อมด้วยไกด์รันเน่อร์สปีดม้วนเดียวเข้าเส้นชัยได้อย่างเหนือชั้น โดยทิ้งคู่แข่งขาดลอย ทำเวลาได้ 63.38 วินาที คว้าเหรียญทอง เหรียญที่ 18 ให้กับทัพนักกีฬา เอเชี่ยนพาราเกมส์ได้สำเร็จ

          นาย จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า ขอแสดงความดีใจกับผลงานของ  3 นักกีฬาวีลแชร์ซิ่งทีมชาติไทย ที่สามารถทำผลงานเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ทั้งหมดในรายการวีลแชร์ 1,500 ม. ที 54  ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะเราได้เห็นนักกีฬาก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเอเชียในรายการเดียวกันถึง  3 คน ทำให้เชื่อมั่นว่าจะทำให้โอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในอีก 2 ปีข้างหน้า

          “ส่วนผลงานของทีมกรีฑาไทยในเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเพราะเวลานี้นักกีฬาเราสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ถึง  7ทอง 7 เงิน และ  8 ทองแดง และยังเหลือการชิงชัยที่มีลุ้นอีกหลายรายการที่สำคัญในครั้งนี้เรายังได้เห็นนักกีฬาหน้าใหม่ทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ในหลายรายการซึ่งทีมกรีฑาไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและอาจการต่อยอดไปลุ้นเหรียญพาราลิมปิกเกมส์ในอีก 2 ปี

          วีลแชร์เทนนิส ไฮไลต์อยู่ที่ประเภท หญิงคู่  รอบชิงอันดับ 3 ซึ่ง คู่ของ  สาคร ขันทะสิทธิ์  กับ วนิธา อินทนิล ลงดวลกับ ปาร์ค จู ยอน กับ ฮวางมยองฮี  จากเกาหลีใต้ ปรากฎว่า คู่ของสาวไทย อาศัยทีมเวิร์ค และการตีที่เฉียบขาดกว่าหวดเอาชนะ คู่สาวเกาหลีใตได้แบบสุดมัน 2-0 เซต (6-4,6-4) พร้อมกับคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ

          โกลบอล  ประเภททีมหญิง รอบรองชนะเลิศ   ซึ่ง ทีมโกลบอลสาวไทย  ลงดวลกับ ทีมญี่ปุ่น  ปรากฎว่า ทีมสาวไทย ต้านความแข็งแกร่งของ สาวแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ไหวพ่ายไป 0-9 ทำให้ชวดเข้าชิงไปอย่างน่าเสียดาย และต้องไปลุ้นเหรียญทองแดงกับ ทีมอิหร่าน ในรอบชิงอันดับ 3 ต่อไป 

          แบดมินตัน เป็นการชิงชัยในรอบก่อนรองชนะเลิศ และ รอบรองชนะเลิศ  ไฮไลต์อยู่ที่ประเภท หญิงเดี่ยว คลาส WH1

           รอบตัดเชือก ซึ่ง สุจิรัตน์ ปุกคำ นักแบดมินตันสาวไทย ลงดวลกับ  คิม ซุง ซุก จากเกาหลีใต้  ปรากฎว่า สุจิรัตน์  เอาชนะ สาวเกาหลีใต้ ไปได้แบบสบาย 2-0 เกม  (21-10, 21-6) ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้   ขณะเดียวกันในประเภท หญิงเดี่ยว คลาส SL3  รอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นการดวลกันเองของนักตบลูกขนไก่ไทย ระหว่าง วันดี คำทำ พบกับ  ดรุณี เห็นไพรวัลย์  ปรากฎว่า วันดี เอาชนะไปได้ 2-0 เกม (21-19, 21-11) ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ 

          ส่วนหญิงเดี่ยว คลาส WH2  รอบรองชนะเลิศ  “แก่น” อำนวย เวชวิฐาน นักแบดมินตันพาราไทยดีกรีแชมป์โลก  พลาดท่าพ่ายให้กับ ยู ทอง ชาวจีน ไป 0-2 เกม (16-21, 10-21)  ชวดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย และแต่ยังการันตีคว้าเหรียญทองแดงมาครองแล้วเช่นกัน  ส่วนผลคู่อื่น รอบก่อนรองชนะเลิศ  ชายเดี่ยว คลาส WH1จักรินทร์ หอมนวล  (ไทย) แพ้ ลี ดอง ซุป  (เกาหลีใต้)  0-2 เกม (14-21, 10-21)