ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ทัพเอเชี่ยนพาราเกมส์ คว้าได้แล้ว 16 เหรียญทอง

วันที่ลงข่าว: 11/10/18

          ทัพนักกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ช่วยกันโกยได้เพิ่มอีก 9 เหรียญทอง ทำให้ตุนไว้แล้ว 16 เหรียญทอง “จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” เชื่อมั่น “ทัพพาราไทย” จะทำผลงานคว้าอันดับ  1 อาเซียน และอันดับ 6 เอเชียได้ตามเป้าหมาย 

การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2018 ที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเหรียญทองในวันที่ 5ซึ่งทัพนักกีฬาคนพิการของไทยมีตุนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 7 เหรียญทอง

          โดยไฮไลต์อยู่ที่กีฬาเทเบิลเทนนิส ในรอบชิงชนะเลิศ  ประเภท คู่ผสม คลาส  4-5 รอบชิงชนะเลิศ  เป็นการพบกันระหว่างคู่ของไทย  ที่มี วันชัย ชัยวุฒิ จับคู่กับ วิจิตรา ใจอ่อน พบกับ คิม กี ยอง กับ  คอง อุน ยอง จากเกาหลีใต้  ซึ่งเกมการแข่งขันเป็นอย่างสนุกสูสี แต่ทว่า เป็นคู่หูนักตบลูกเด้งของไทย ที่อาศัยทีมเวิร์คที่เฉียบขาดกว่าตบต้อนเอาชนะ คู่ของเกาหลีใต้ ไปได้แบบสบาย 2-0 เกม (11-5,11-6)  คว้าเหรียญทอง ที่ 8ให้กับทัพพาราไทย 

          ขณะเดียวกันในประเภท คู่ผสม คลาส 2-3 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการพบกันเองของนักกีฬาไทย  ระหว่าง คู่ของ อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ดารารัตน์  อาสายุทธ์ พบกับ คู่ของ วิทยา วิชัยวัฒนา กับ ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา  ปรากฎว่า เป็นคู่ของ   อนุรักษ์ กับ ดารารัตน์  ที่เอาชนะไปได้ 2-0 เกม (11-4,11-6) พร้อมความเหรียญทองที่  9 ให้ไทยอีกเหรียญ ส่วนคู่ของ วิทยา และ ชิลชิตพยัค เหรียญเงินไปครอง

          จากนั้น ทีมปิงปองไทย ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อีก 3 เหรียญทอง  จาก ประเภทชายคู่ คลาส 6-7 ซึ่ง รุ่งโรจน์ ไทยนิยม จับคู่กับ เฉลิมพงษ์ พันภู่  โชว์ฟอร์มแกร่งตบเอาชนะ คู่ของ เจสัน กอร์ลี่ กับ ราห์มัด ฮิดายาด จากอินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-5,11-8)คว้าเหรียญทอง เหรียญที่ 10 ได้สำเร็จ  ,ต่อเนื่องด้วยประเภท ชายคู่  คลาส 2-3อนุรักษ์ ลาววงษ์ จับคู่กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ที่เอาชนะ คู่ของ เซเฟรนโต้ กับ ชาโย บัมบูดี่ จากอินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ  2-0 เกม (11-5,11-4)เพิ่มเหรียญทองเป็น 11 เหรียญ  และต่อเนื่อง  ประเภท หญิงคู่ คลาส 3-5 คู่ของ ภัทรวดี วราฤทธิ์ดำรงกุล จับคู่กับ ดารารัตน์  อาสายุทธ์  สามารถเอาชนะ คู่ของ  ปาเทค พาวินาเบน กับ  พาเทล โซนาเบน จากอินเดีย 2-0 เกม (11-4,14-12) คว้าเหรียญทองที่ 12 ได้อย่างสวยหรู

          ด้าน บอคเซีย  ทัพนักโยนลูกนิ่มทีมชาติไทย ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน คว้าเหรียญรางวัลเพิ่มให้ทัพไทย ได้อีก 2 เหรียญทอง กับอีก  2 เหรียญเงิน  โดยได้จากประเภทบุคคลบีซี 1   จาก วิษณุ ฮวดประดิษฐ์  ที่โชว์ฟอร์มเอาชนะ จุง ซุง จูน จากเกาหลีใต้ 7-3 คะแนน คว้าเหรียญมาครองได้สำเร็จเป็นเหรียญที่ 13   และในประเภทบุคคล บีซี 2 รอบชิงชนะเลิศ  ซึ่งนักกีฬาไทยชิงกันเอง โดย วรวุฒิ แสงอำภา  เอาชนะ วัชรพล วงษา  ไปได้ 4-2 ทำให้ วรวุฒิได้เหรียญทอง เป็นเหรียญที่ 14 ของการแข่งขัน ส่วน วัชรพล วงษา ได้เหรียญเงิน นอกจากนี้ในประเภทบุคคล บีซี 4 ฤทธิไกร สมสนุก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เช่นกัน ก่อนที่จะแพ้ให้กับ  หลิน ซิเม่ย จากจีน 1-5 ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญเงินเท่านั้น 

           วีลแชร์ฟันดาบ ไฮไลต์อยู่ที่ ประเภท ดาบเอเป้ บุคคลหญิง คลาส บี ซึ่ง สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์  ที่ก่อนหน้านี้คว้าไปแล้ว  3 เงิน  1 ทองแดง สามารถฝ่าด่านเข้าชิงชนะเลิศ พบกับ  เฉา จิง จิง คู่ปรับจากจีน  โดยการแข่งปรากฎว่า  สายสุนีย์ อาศัยความเก๋าดักฟันทำแต้มเอาชนะ คู่ปรับจากจีนไปได้แบบสนุก 15-8 คะแนน คว้าเหรียญทองแรกในเอเชี่ยนพาราเกมส์หนนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จโดยเป็นเหรียญทองที่ 15 ของทัพนักกีฬาไทย

          และมาปิดท้ายที่ วิ่ง 100 เมตรชาย คลาส ที 11(ตาบอด)  โดย พีระพล หวาดบก สามารถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 11.44 วินาที คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 9 ของวัน และ เป็นเหรียญที่ 16 ให้กับทัพนักกีฬาคนพิการของไทยได้อีกด้วย  เหรียญเงินตกเป็นของ อับดุล ฮาลิม ( อินโดนีเซีย ) 11.52 วินาที และ เหรียญทองแดง ดี ตง ตง (จีน) 11.59 วินาที

         ด้าน  นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี  ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาแบบติดขอบสนาม กล่าวว่า  จากผลการแข่งขัน ณ เวลานี้ ต้องบอกว่าเป้าหมายการเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน และอันดับ 6 ของเอเชีย ก็อยู่ไม่ไกล แม้ว่าเวลานี้เหรียญรางวัลเราจะเรายังตามเจ้าภาพอยู่ แต่เรายังอยู่ในเส้นทาง และที่สำคัญในการแข่งขันครั้งนี้ เราได้เห็นนักกีฬาหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญรางวัลได้ในหลายชนิดกีฬาโดยเฉพาะกีฬาเทเบิลเทนนิสที่คว้าได้ถึง  5 เหรียญทอง  ทำให้ยังเชื่อมั่นว่า เราจะยังทำผลงานได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/sport/127889
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก