ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ซีพี. เสริฟอาหารอร่อยให้นักกีฬาพาราเกมส์

วันที่ลงข่าว: 11/10/18

          หลังจากที่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้ให้การสนับสนุนทัพนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าสู้ศึกในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง "ซีพี" ก็ยังหนุนวงการกีฬาไทยอย่างต่อเนื่องโดยได้ให้การสนับสนุน อาหารและซิมโรมมิ่งจากทรูมูฟ เอช ให้กับทัพนักกีฬาคนพิการเพื่อสู้ศึก "เอเชียน พาราเกมส์  2018" ที่ลงทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-13 ต.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย  ใน 12 ชนิดเช่นเดียวกัน

          สำหรับเมนูอาหารทั้ง 12 ชนิดที่ทาง "ซีพี" มอบให้นั้นมีโภชนาการ อร่อย สะอาด ปลอดภัย เพื่อเสริมสร้างพลังกายและเพิ่มพลังใจให้กับทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย โดยมีเมนูไฮไลท์คือ กุ้งอบวุ้นเส้น และเมนูยอดนิยมอย่าง เกี๊ยวกุ้ง ตามมาด้วยเมนูอื่นๆ อีกหลายเมนู อาทิ
ข้าวแพนงไก่ อกไก่นุ่ม และไก่อบบาร์บิคิวผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น 

          ส่วนด้านการสื่อสาร ทรูคอร์ปอเรชั่น ได้มอบซิมโรมมิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกเชื่อมโยงกับนักกีฬาไทย เจ้าหน้าที่ โค้ชและสื่อมวลชนให้ติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้ตลอดเวลาเมื่อใช้งานในประเทศอินโดนีเซีย สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่มีจำกัดผ่านบริการโรมมิ่งจากทรูมูฟเอช

          นอกจากนั้นทาง ทรูคอร์ปอเรชั่น ยังได้มอบ ซิมโรมมิ่ง ทรูมูฟเอช ให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อสู้ศึก "ยูธ โอลิมปิกเกมส์ 2018" ที่กรุงบูโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในระหว่างวันที่ 6-18 ต.ค. อีกด้วย ซึ่งในรายการนี้นักกีฬาเยาวชนไทยที่ได้สิทธิเข้าร่วมชิงชัยทั้งสิ้นจาก 20 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย นักกีฬา 57 คน, หัวหน้านักกีฬา 1 คน, เจ้าหน้าที่ประจำทีม 23 คน, ทีมแพทย์ 2 คน, เจ้าหน้าที่ประจำกองอำนวยการ 1 คน, ผู้แทนเยาวชนไทย 1 คน, ผู้ตัดสินสหพันธ์ 3 คน รวมทั้งสิ้น 88 คน

          สำหรับการแข่งขันกีฬาคนพิการ เอเชียนพาราเกมส์  2018 แข่งขันวันที่ 6-13 ต.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย มี 42 ชาติสมาชิกทั่วเอเชียเข้าร่วมชิงชัย จัดแข่งขันทั้งสิ้น 17 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ยิงธนู, โกลบอล, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา, ยูโด, วอลเลย์บอล, แบดมินตัน, บอคเซีย, โบว์ลิ่ง, จักรยาน, ยิงปืน, ว่ายน้ำ, ลอนโบว์, ยกน้ำหนัก, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์เทนนิส และวีลแชร์ฟันดาบ  โดยครั้งที่แล้วเมื่อปี 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ทัพนักกีฬาไทย จบอันดับ 6 บนตารางเหรียญ คว้ามาได้รวมทั้งสิ้น 107 เหรียญ แบ่งเป็น 21 เหรียญทอง 39 เหรียญเงิน และ 47 เหรียญทองแดง (อันดับ 1-5 ประกอบด้วย จีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-อิหร่าน-อุซเบกิสถาน)

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/sport/127847
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก