ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กรมสุขภาพจิตเผยคนไทยกว่าล้านคนประสบภาวะบกพร่องทางสติปัญญา เตรียมทุ่มงบเกือบ 40 ล้านบาท พัฒนาสถาบันราชานุกูล เป็นศูนย์เชี่ยวชาญดูแลช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาอย่างสมบูรณ์แบบ

วันที่ลงข่าว: 26/09/18

          นาวาอากาศตรี นายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ประมาณร้อยละ 2 ของประชากร หรือราว 1.3 ล้านคน ภาวะบกพร่องนี้พบได้ในเด็กหลายกลุ่มโรค เช่น ออทิสติก และกลุ่มดาวน์ซินโดรม สาเหตุเกิดมาจากความผิดปกติในสมอง ซึ่งอาการแสดงที่สำคัญและโดดเด่นคือ เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้า ยิ่งสติปัญญาบกพร่องรุนแรง ความล่าช้าทางพัฒนาการก็จะยิ่งเห็นได้เร็วขึ้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างถูกวิธี โดยเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการดูแลเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา จะเน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพของสมองและร่างกาย เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ความพิการเพิ่มขึ้น เด็กสามารถพึ่งตนเองได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกับคนปกติที่สุดเป็นภาระครอบครัวและสังคมน้อยที่สุด ซึ่งสถาบันราชานุกูล กทม. ได้ดำเนินในเรื่องนี้มาต่อเนื่องและมีความก้าวหน้ามาก มีทีมสหวิชาชีพกระตุ้นพัฒนาการของเด็กทั้งการเคลื่อนไหว การฝึกพูด อ่าน เขียน จัดการศึกษาพิเศษทั้งรายกลุ่มและรายบุคคลเพื่อให้เด็กเข้าสู่ระบบโรงเรียนหรือด้านอาชีพที่เหมาะสม โดยมีศูนย์ฝึกอาชีพอยู่ที่ตำบลบางพูน จ.ปทุมธานี กำลังเตรียมเปิดศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการราชานุกูลที่แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่มอีก 1 แห่ง ส่วนด้านบริการโดยเฉพาะที่แผนกผู้ป่วยนอกจะทำเป็นสมาร์ท โอพีดี(Smart OPD) มีระบบนัด ระบบคิว และระบบเรียกเก็บเงินที่ทันสมัย บริการรวดเร็วขึ้น จัดสิ่งแวดล้อมสถานที่บรรยากาศที่เป็นมิตรกับเด็ก และจะเพิ่มการดูแลเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีแบบผู้ป่วยในด้วย คาดว่าจะเปิดบริการช่วงกลางปี 2562 จะทำให้สถาบันราชานุกูล เป็นศูนย์พัฒนาวิชาการของไทยและภูมิภาคอาเซียนในด้านการดูแลผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาที่สมบูรณ์แบบ ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟู

          ด้านแพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า แผนพัฒนาในปี 2562-2563 ในด้านระบบบริการ จะเพิ่มเครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยสนามแม่เหล็กชนิดความถี่สูง ชุดตรวจประเมินระบบประสาทสัมผัสด้วยตนตรีบำบัด ชุดอุปกรณ์บูรณาการทำงานของระบบประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว ห้องกระตุ้นพัฒนาการ ชุดกระตุ้นประสาทสัมผัสด้วยเทคนิคสนูซีเลน และชุดศึกษาพฤติกรรมเด็กพิเศษ รวมเกือบ 40 ล้านบาท ส่วนด้านวิชาการจะวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มไอคิวเด็กและพัฒนาด้านทักษะทางอารมณ์และสังคมในกลุ่มเด็กปฐมวัย ส่วนกลุ่มเด็กวัยเรียน จะพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนพ่อแม่เพื่อเพิ่มไอคิว อีคิว และลดปัญหาสมาธิสั้นด้วย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก