ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สภากาชาดไทย ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการอบรมอาสาสมัครดูแลผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยจิตอาสาสกากาชาดไทย

วันที่ลงข่าว: 07/08/18

          วันที่ 6 ส.ค. 61 ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลป่าตอง นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมอาสาสมัครผู้ดูแลผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยจิตอาสาสภากาชาดไทย โดยมีนางสุดาวรรณ ปลอดทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายเสถียร แก้วพระปราบ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต วิทยากรเครือข่ายหลักสูตรการช่วยเหลือผู้สูงอายุสภากาชาดไทย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

          นางสุดาวรรณ ปลอดทอง กล่าวว่า ด้วยปี พ.ศ.2560 ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย ได้ร่วมกับสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด และเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต จัดอบรมโครงการพัฒนาจิตอาสาสู่อาสาสมัครสภากาชาดไทย หลักสูตรด้านการช่วยเหลือผู้สูงอายุแก่บุคลากรทางด้านสาธารณสุขและกรรมการเหล่ากาชาดจาก 6 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 42 คน ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดลำพูน จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดภูเก็ต จังหวัดละ 84 คน โดยแบ่งการอบรมเป็นจังหวัดละ 2 รุ่น ๆ ละ 42 คน รวมอาสาสมัครที่เป็นวิทยากรเครือข่ายจาก 6 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 504 คน

          โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้วิทยากรเครือข่ายทั้ง 6 จังหวัด นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอด ขยายผลการให้ความรู้เรื่องการดูแลผู้สูงอายุแก่อาสาสมัคร ญาติและผู้ดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงเพื่อประเมินอาสาสมัครที่ผ่านการอบรม ถึงขั้นตอนความถูกต้องในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ พร้อมทั้งให้คำแนะนำ โดยทีมวิทยากรเครือข่าย เพื่อผู้สูงอายุในชุมชนได้รับการช่วยเหลือ สงเคราะห์จากเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม

          ทั้งนี้ การดำเนินงานที่ผ่านมา อาสาสมัครที่ผ่านการอบรมได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานด้วยความมานะ เสียสละ กระทั่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากชุมชนต่าง ๆ มีผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลจากอาสาสมัคร สามารถฟื้นฟูตนเองจากที่ป่วยนอนติดเตียง กลับมาเดินได้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตตระหนักถึงความสำคัญ และเห็นคุณค่าของการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสภากาชาดไทย เห็นถึงความจำเป็นในการอบรมให้มีอาสาสมัครจำนวนเพิ่มขึ้น และมีศักยภาพ สามารถช่วยเหลือ ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว และชุมชนของตนเองได้ต่อไป

          ขณะที่ นายนรภัทร ปลอดทอง ได้กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเติมตัว ทำให้การจัดโครงการดังกล่าวถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งในปีที่ผ่านมาผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ บรรลุถึงเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงอายุ

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก