ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จังหวัดอำนาจเจริญประชุมชี้แจงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน

วันที่ลงข่าว: 16/07/18

           ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการประชุมชี้แจงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาละเบียนได้ในปี 2560 แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

           นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่ามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 รับทราบและเห็นชอบในหลักการและแนวทางการดำเนินการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ ไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาละเบียนได้ในปี 2560 โดยให้ประสานรายละเอียดการปฏิบัติต่างๆ เช่น กลไกการประชาคมหมู่บ้าน/ชุมชน กับกรมการปกครอง ซึ่งกรมการปกครองได้จัดทำคำแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติสำหรับอำเภอเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบการดำเนินงานของทุกอำเภอแล้ว ปรากฏว่ายังมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการอยู่หลายประเด็นซึ่งอาจทำให้การดำเนินงานไม่แล้วเสร็จตามกำหนด

ดังนั้นเพื่อให้การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาละเบียนได้ในปี 2560 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีและเปิดโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการช่วยเหลือตามจุดมุ่งหมายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้จัดประชุมชี้แจงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ให้แก่ชุดขับเคลื่อนระดับตำบลในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ชุดขับเคลื่อนระดับตำบลมีความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติและสามารถปฏิบัติงานในการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมฯ และบันทึกข้อมูลเข้าระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดทำโดยกระทรวงการคลังให้แล้วเสร็จภายในกำหนดคือ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 และสามารถให้บริการในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาละเบียนได้ในปี 2560 ได้ครบทุกราย

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก