ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจคู่กับประเทศไทย

วันที่ลงข่าว: 26/06/18

          เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายน 2561 ประสบความสำเร็จด้วยดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการร่วมงานสัมมนา Transforming Thailand : Thailand-France Partnership ซึ่งจัดโดยสภานายจ้างฝรั่งเศส (MEDEF) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งการได้พบกับนักธุรกิจฝรั่งเศสชั้นนำ 4 ราย ได้แก่ กลุ่ม Transdev Group บริษัท Michelin กลุ่ม VINCI กลุ่ม SUEZ ซึ่งให้การตอบรับและแสดงความยินดีที่ไทยมีการดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) การจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาความร่วมมือภาคเอกชนไทย ฝรั่งเศส และความร่วมมือกับ MEDEF ทำให้มูลค้าการค้าโดยรวมสูงขึ้นร้อยละ 20 เพราะภาคเอกชนเห็นโอกาสและลู่ทางการลงทุนในไทย ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกลุ่มอนุภูมิภาค ทั้ง ACMECS, CLMV และอาเซียนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษในการดูแลการลงทุนจากต่างชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อผลประโยชน์ที่เท่าเทียมของมิตรประเทศ

          ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะและพบหารือกับนายแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้นำรุ่นใหม่ บรรยากาศการหารือเป็นกันเอง ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ครบทุกประเด็น การลงทุนการค้า ความมั่นคง วิกฤตโลกร้อน การใช้อาวุธนิวเคลียร์ การปฏิรูปอุตสาหกรรม การศึกษา รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงทางภูมิภาคกับอาเซียน ทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบร่วมกันในการเชื่อมต่อเพื่อขับเคลื่อนด้วยเอกชน นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าไทยเดินหน้าตามโรดแมป โอกาสนี้ยังได้เชิญประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางเยือนไทยและร่วมการประชุมอาเซียน

          นายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปว่า การเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น การเดินทางมาเยือนต่างประเทศ ยังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจจากประเทศไทยและการเยือน 2 ประเทศครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นอันดี ซึ่งต้องพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก และขอขอบคุณคนไทยที่อยู่ใน 2 ประเทศที่มาพบและให้กำลังใจในการบริหารประเทศและขอนำน้ำใจจากพี่น้องคนไทยในต่างแดนเหล่านี้กลับไปฝากคนที่ประเทศไทยด้วย

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก