ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สถาบันการศึกษา ร่วมกับภาครัฐ สานความร่วมมือ ส่งเสริมการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

วันที่ลงข่าว: 25/06/18

          วันที่ 22 มิ.ย. 61  ที่มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี คณะอำนวยการคณะทำงานเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการของมหาวิทยาลัยวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมและการพัฒนามนุษย์ ได้ร่วมประชุมและกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง ความเข้าใจ (MOU) โดยมีพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

          ทั้งนี้ เนื่องจากมหาวิทยาลัย สถาบันการอาชีวศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล มีฐานะบทบาทด้านเวทีทางปัญญา และแหล่งความคิดชี้นำสังคมโดยอาศัยหลักแห่งความเป็นเลิศแห่งความรู้และวิทยาการ มีความสำคัญในฐานะพื้นที่กลางทางความคิดในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่รู้ และสร้างความเข้าใจต่อประเด็นปัญหาทั้งหลายที่ดำรงอยู่ ที่คุกคามความมั่นคงและความผาสุกของสังคมส่วนรวม มีบทบาทสร้างปัญญาชนและคนดีสู่สังคมที่จะทำให้สังคมพัฒนาสู่ความก้าวหน้า ภายใต้วิถีแห่งสังคมพหุวัฒนธรรมและความหลากหลาย มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชนที่มีจิตใจเปิดกว้าง มีความรอบรู้มีคุณธรรม ความสามารถ และมีจิตอาสาที่คำนึงถึงประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์

สำหรับบันทึกความเข้าใจในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการของมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมและการพัฒนามนุษย์ที่ได้ร่วมลงนาม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี สถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 3 ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร้อยภายใน ตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยความมั่นคงส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สอดคล้องกับความมั่นคงในประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก ก่อให้เกิดการบริหารจัดการความมั่นคงชายแดนใต้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยสันติวิธีอย่างยั่งยืน ต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก