ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รมช.ศึกษานำอาชีวะเดินหน้าขับเคลื่อน นวัตกรรม ต่อยอดสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์

วันที่ลงข่าว: 18/06/18

          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มิ.ย.61 พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมการขับเคลื่อนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา ภาคกลาง นำนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาออกมาสู่โลกธุรกิจ เพื่อกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยการสร้างองค์ความรู้เผยแพร่สู่สาธารณะและชุมชน เพื่อการนำไปใช้เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

          สำหรับการขับเคลื่อนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาครั้งนี้เป็นของภาคกลาง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2561 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ภายในงานประกอบด้วย การเสวนาทางวิชาการเพื่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมประเทศไทย 4.0 ในหัวข้อ แนวทางการส่งเสริม นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาสู่ไทยแลนด์ 4.0 และ การจัดประเภทกลุ่มของนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (11 ประเภท) การจัดนิทรรศการแสดงผลงาน สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมอาชีวศึกษา จำนวนกว่า 220 ผลงาน จาก 75 สถานศึกษา ซึ่งเป็นการเจรจาขับเคลื่อนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา เพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เป็นการแสดงความจำนง ความร่วมมือของการจับคู่ระหว่างสถานประกอบการ และนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ของสถานศึกษา 4 รูปแบบ คือ เจรจาแล้วซื้อ  จำนวน 39 ผลงาน ให้คำแนะนำแล้วซื้อ  จำนวน 28 ผลงาน ให้โจทย์แล้วซื้อ  จำนวน 11 ผลงาน และให้คำปรึกษาต่อยอดธุรกิจ จำนวน 19 ผลงานในการก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ เพื่อทำเป็นธุรกิจต่อไป และคาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจ จำนวนไม่น้อยกว่า 150 คู่ และมีผู้เข้าร่วมชมงานมากกว่า 3,000 คน

          ด้าน พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินการขับเคลื่อนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ เป็นการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพการต่อยอดนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาสู่เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ซึ่งสอศ.ได้เริ่มดำเนินการขับเคลื่อนนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา ในพื้นที่ 2 ภูมิภาค ไปแล้ว คือ ภาคตะวันออกและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเป็นผลการดำเนินงาน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสอศ.กับศึกษาธิการภาค ได้ดำเนินการในรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการผลงานสิ่งประดิษฐ์จากสถานศึกษา ที่ผ่านการคัดเลือกนำมาพัฒนาต่อยอดเข้าสู่อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าชมรายละเอียดและพิจารณาคุณสมบัติสิ่งประดิษฐ์และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยผ่านช่องทางคิวอาร์โค้ดได้อีกช่องทางหนึ่ง 

          ส่วน นายสุเทพ ชิตยวงษ์  เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเสริมว่า การจัดงานขับเคลื่อนสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมอาชีวศึกษาที่จัดขึ้นนี้ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการจัดการอาชีวศึกษาที่เสริมสร้างให้ผู้เรียนมีทักษะในการคิดต่อยอดกระบวนการผลิต  เพื่อให้เดินไปพร้อม ๆ กับกลยุทธ์ด้านการตลาด ได้มีโอกาสทำความความรู้จักกับผู้ประกอบการ เกิดการสื่อสารในเชิงธุรกิจ คาดว่าต่อไปโรงฝึกงานหรือ “ช้อป” ในสถานศึกษาจะเป็นช้อปที่มีชีวิต มีความเคลื่อนไหว เพราะจะมีการผลิตและพัฒนารูปแบบสิ่งประดิษฐ์อย่างต่อเนื่อง มีการกระจายรายได้และพัฒนาองค์ความรู้ให้สูงขึ้น สำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่นำมาแสดงและจำหน่ายในครั้งนี้ หลายชิ้นโด่งดังเป็นข่าวไปแล้ว เช่น อุปกรณ์วัดความสุกของทุเรียน จุกน้ำปลากันเลอะ เครื่องเซาะตาสับปะรด เครื่องสารพัดตามพลังงานแสงอาทิตย์ และยังมีอีกหลายชิ้นที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น มีดสางใบอ้อย เครื่องตอนจุกสับปะรด เครื่องตามรีโมท เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ เครื่องปั่นเม็ดเลือดแดง เครื่องระเบิดท่อน้ำอุดตันในครัวเรือน เครื่องพ่นยาสัตว์ เครื่องเตือนไฟไหม้สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งยังมีอีกหลายชิ้นที่น่าสนใจ หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็สแกนจากคิวอาร์โค้ดหรือติดต่อได้ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ 02-5109552,02-5109553

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/activity/115148
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก