ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สถาบันสิรินธรตั้งบ้านวิถีอิสระเพื่อผู้พิการ ฝึกทักษะการดำเนินชีวิตอย่างเสรี

วันที่ลงข่าว: 18/06/18

          สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ จัดตั้งบ้านวิถีชีวิตอิสระ เพื่อคนพิการสามารถดำรงชีวิต และมีส่วนร่วมในสังคมได้ทัดเทียมกับบุคคลอื่นอย่างเต็มภาคภูมิ

          นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับบ้านวิถีชีวิตอิสระ เพื่อให้คนพิการได้ฝึกทักษะในการดำเนินชีวิตอย่างมีอิสระและกลับเข้าสู่สังคมอย่างมีส่วนร่วม มีความรู้ ความเข้าใจและยอมรับ        ในสภาพความพิการของตนเอง มีทัศนคติที่ดีต่อคนพิการและคนอื่น ๆ ในสังคม สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้    ด้วยตนเอง ซึ่งผู้ป่วย/ผู้พิการที่มารับบริการจะต้องผ่านการตรวจจากแพทย์ หรือผ่านการพิจารณาจากทีมฟื้นฟูสมรรถภาพว่าควรได้รับการฝึกทักษะ จึงส่งต่อมาเพื่อรับบริการฝึกทักษะคนพิการหรือบ้านวิถีชีวิตอิสระ

          นายแพทย์ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวว่า การจัดบริการฝึกทักษะการเตรียมความพร้อมในการดำรงชีวิตอิสระเป็นการจัดบริการ      เฉพาะรายและรายกลุ่ม ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกของสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ โดยส่งเสริมทักษะในการดำรงชีวิตสำหรับคนพิการ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1.บริการฝึกทักษะคนพิการ ประเมินความสามารถ และข้อจำกัดต่าง ๆ  ของคนพิการ เพื่อนำมาวางแผนการฝึกกิจกรรมร่วมกับคนพิการอื่น ๆ ได้แก่ หัตถกรรม ประกอบอาหาร นันทนาการ คอมพิวเตอร์ กีฬา ฯลฯ 2.บ้านวิถีชีวิตอิสระ จัดสถานที่จำนวน      4 ห้อง ให้เสมือนบ้าน โดยจัดสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เอื้อต่อการฝึกการดำเนินชีวิตของคนพิการ   ซึ่งจะได้รับการประเมินความพร้อมทางด้านร่างกาย และจิตใจจากทีมสหวิชาชีพก่อนเข้ารับการฝึก 3.การกระตุ้นและพัฒนาทักษะการกลับเข้าสู่สังคม เป็นการเตรียม  ความพร้อมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความพิการ เพศและวัย รวมทั้งความต้องการในการดำเนินชีวิตของคนพิการ เช่น การฝึกหัดขับรถยนต์ดัดแปลง การไปทัศนศึกษาตามสถานที่สาธารณะต่าง  ๆ นอกจากนี้ยังมีการประสานส่งต่อด้านการศึกษา การฝึกอาชีพใหม่ หรือเพิ่มทักษะให้สามารถกลับไปประกอบอาชีพเดิมได้

ที่มาของข่าว http://www.banmuang.co.th/news/bangkok/115116
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก