ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จ.สงขลา เตรียมจัดงานกาชาด 27 ก.ค. ถึง 6 ส.ค. 61 เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาในการนำไปช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณกุศล และช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก

วันที่ลงข่าว: 12/06/18

          จังหวัดสงขลา เตรียมจัดงานกาชาด 27 กรกฎาคม ถึง 6 สิงหาคม 2561 เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาในการนำไปช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณกุศล และช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก

ช่วงบ่ายวันนี้ (11 มิ.ย. 61) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางนฤมล พัฒนรัฐ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเตรียมการจัดงานกาชาดจังหวัดสงขลา ประจำปี 2561 ครั้งที่ 1

          จังหวัดสงขลา กำหนดจัดงานกาชาดจังหวัดสงขลา ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 6 สิงหาคม 2561 ณ บริเวณสระบัว แหลมสนอ่อน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นการส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการ ส่งเสริมโครงการ “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” และจัดหารายได้สนับสนุนเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาในการนำไปช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณกุศล และช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากในจังหวัดสงขลาต่อไป

          สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ , การจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป และผู้พิการเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานของทางราชการ , การออกร้านสาธิตและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ , การออกร้านนาวากาชาด , การออกหน่วยรับบริจาคโลหิต , การจัดกิจกรรมภาคความบันเทิง เช่น การประกวดวงดนตรี , การประกวดแอโรบิค , การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ , การแสดงดนตรี , การประกวดร้องเพลง , การแสดงของนักเรียนนักศึกษาในกิจกรรมต่าง ๆ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และเน้นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของภาคใต้ ทั้งนี้ ได้กำหนดพิธีเปิดงานในวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2561 และจะมีการออกรางวัลสลากกาชาดในคืนวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2561

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทุกภาคส่วนในจังหวัดสงขลาจะร่วมกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง เพื่อแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมเพรียงกัน

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก