ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สุดยอด!รู้กันหรือยังทีมตาบอดไทยไปฟาดแข้งบอลโลก

วันที่ลงข่าว: 15/05/18

          นายกฯเผยเรื่องน่ายินดี นักกีฬาฟุตบอล"คนตาบอด"ทีมชาติไทยเข้ารอบ16ทีมชิงแชมป์ฟุตบอลคนตาบอดโลก ลงฟาดแข้ง 5-18มิ.ย.61 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า มีเรื่องที่น่ายินดี 2 เรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวกับนักกีฬาฟุตบอล คนตาบอด ทีมชาติไทย ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรก เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในรายการฟุตบอลคนตาบอดโลก ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 5 ถึง 18 มิถุนายนนี้ ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ต่างอะไรจากกีฬาระดับโลกประเภทอื่นๆ ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค การแข่งขันหลายรอบ กว่าจะได้เป็นตัวแทนทวีปเอเชีย เข้าสู่รอบสุดท้ายนี้ ไม่เพียงศักยภาพรายบุคคลของนักกีฬา การทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ประกอบกับ การทำงานเป็นทีมซึ่งสำคัญมาก รายการนี้ย่อมพิสูจน์ให้พวกเราทุกคนได้เห็นว่า แม้มองไม่เห็น แต่ก็สามารถใช้หูนำทาง ร่วมกับประสาทสัมผัส และทักษะอื่นมาชดเชยได้เพียงแต่ต้องอาศัยการฝึกฝน และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทุกคนก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ สมดังที่มุ่งมั่นตั้งใจไว้ทั้งสิ้น ขอชื่นชมในความสามารถ ความวิริยะอุตสาหะ จนมาถึงจุดนี้ โดยจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ทั้งประเทศ ในทุกวงการ ไม่ให้ย่อท้อต่ออุปสรรค และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ติดตามผลงาน ร่วมส่งกำลังใจไปเชียร์ ให้นักกีฬาของเราประสบความสำเร็จสูงสุด นำชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ และความสุข มาสู่คนไทย ทั้งชาติ และ เป็นบันไดไปสู่การแข่งขันในรายการพาราลิมปิกส์เกมส์ ปี 2020ณ ประเทศญี่ปุ่น ต่อไปด้วย อีกเรื่องหนึ่งก็คือประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ และ ดำรงตำแหน่งประธานเครือข่ายผู้ประกอบกอบการสตรีอาเซียน (AWEN) ต่อจากฟิลิปปินส์ ซึ่งจะมีวาระ 2 ปี คือ ปี 2562 และ 2563 เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสตรีทางเศรษฐกิจในอาเซียน ที่สะท้อนการยกระดับความเสมอภาคระหว่างเพศ และ พลังสตรีกับเศรษฐกิจ  ของภูมิภาคอาเซียน ที่ผมเห็นว่าจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยความร่วมมือในลักษณะเกื้อกูลกัน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 

          ทั้งนี้ ได้ฝากข้อพิจารณาสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ว่า ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ SMEs โดยเฉพาะผู้ประกอบการสตรี, การสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจระดับฐานราก ทั้งด้านการผลิตและการตลาด ในรูปแบบ ประชารัฐ เพื่อจะสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน, การปรับตัวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็ง ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับสร้างการพัฒนาที่สมดุล และยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้ เราจะต้องดำเนินการในเชิงสร้างสรรค์ และเป็น หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ที่เท่าเทียม สามารถเข้มแข็งไปด้วยกัน ก้าวเคียงข้างกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ที่มาของข่าว https://www.posttoday.com/social/goodstory/550919
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก