พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ สืบเนื่องจากประเทศไทยจะต้องให้สัตยาบันในพิธีสาร์น ปี ค.ศ. 2514 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ครึ่งปีที่ 3 ฉบับนี้ได้กำหนด ซึ่งพิธีสาร์นนี้ ได้พันธกรณีเฉพาะในการป้องกันการใช้แรงงานบังคับ การคุ้มครองเหยื่อ การเข้าถึงการเยียวยาและกำหนดให้ประเทศสมาชิกมีนโยบายและแผนปฏิบัติการของประเทศ

โดยสาระสำคัญ มีการกำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับให้หมายถึง ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงาน หรือบริการโดยไม่ได้สมัครใจให้กับตนเอง หรือบุคคลที่สาม บังคับข่มขู่ว่าจะลงโทษโดยมิชอบ ใช้กำลังประทุษร้าย ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้ นำภาระหนี้ของบุคคลนั้น หรือบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ หรือด้วยวิธีอื่นใดโดยมิชอบ ที่ทำให้บุคคลนั้นไม่สามารถที่จะขัดขืนได้ หรือไม่ได้สมัครใจที่จะทำเอง ถ้าความผิดนั้นไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดให้จัดตั้งกองทุน เพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำความผิด และกำหนดให้มีคณะกรรมการ 2 คณะ คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้าระดับบังคับ มีหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ และคณะกรรมการกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ โดยมีการกำหนด มาตรการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิการผู้ได้รับความเสียหายและกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ โดยจะเพิ่มฐานความผิดกรณี ผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์และผู้พิการ จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ รวมถึงการกระทำที่ทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส หรือเป็นโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตด้วย

          ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทผู้บริหารระดับสูง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอโอนย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับสูง จำนวน 2 ราย คือ นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์