ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอด่านซ้าย จ.เลย ดำเนินกิจกรรม ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชุน

วันที่ลงข่าว: 02/05/18

         นายชำนาญ มีมูล สาธารณสุขอำเภอด่านซ้าย กล่าวว่า คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอด่านซ้าย(พชอ.)โดยเจ้าหน้าที่รพ.สต.บ้านนาดี ต.นาดี อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้ดำเนินกิจกรรม ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยในชุมชุน ดังนี้ 1.ผู้ป่วยชายอายุ73ปี คนไข้. อัมพกฤษ์ครึ่งซีก. Lt. Hemiplegia. ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยADL=3. มือ เท้าด้านซ้ายบวมมีลูกสาวดูแลใกล้ชิดทำกายภาพทุกวันสีหน้าขณะเยี่ยม ยิ้มแย้มพูดคุยรู้เรื่อง motor. power grade 0. 2.ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเพศหญิง อายุ83ปี. ADL=16. อยู่กับสามี เมื่อ1เดือนก่อนหกล้มไหล่กระแทกพื้นมีอาการปวดไม่ยอมลุกเดิน ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเอง นอนเป็นส่วนใหญ่ทำให้เกิดแผลกดทับ.มีหลานคอยส่งข้าว แต่บางวันหลานก็ไม่ได้มาส่ง ทำให้น้อยใจ บ่นตลอด นักบริบาลได้ดูแลทำแผลวันละครั้ง และดูแลเรื่องยาการจัดเก็บบ้านเรือนและการกินยาตามแผนการรักษา ประเมินภาวะซึมเศร้าผ่านเกณฑ์แนะนำสามีให้เข้าใจภาวะการเจ็บป่วยและให้กำลังใจ เพื่อลดภาวะเครียดของผู้ป่วยในระดับหนึ่ง เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดเลย

         โดยคำขวัญที่ว่า เมืองแห่งความมั่นคงความสะอาด ซึ่งอำเภอด่านซ้าย ได้บูรณาการทุกภาคส่วนและปฏิบัติงานในภารกิจเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มวัยโดยการขับเคลื่อนด้วยคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดันอำเภอ (พชอ.) ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ที่อยู่อาศัยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมโดยใช้อำเภอเป็นฐานตามแนวคิดที่ว่า คนในอำเภอเดียวกันจะไม่ทิ้งกัน เพื่อให้สอดคล้องกับปณิธานของชาวอำเภอด่านซ้ายที่ว่า “คนด่านซ้าย ไม่ทอดทิ้งกัน” และเป็นไปตามวาระการขับเคลื่อนจังหวัดเลย (THAILOEI 4.0)”Loei for All” (เลยเมืองของทุกคน)โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วย ผู้พิการ คนด้อยโอกาส คนยากจน ไม่มี่ที่อยู่อาศัยหรือที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงปลอดภัย ซึ่งอำเภอจะไม่ทิ้งกัน “Healthy “(เลยเมืองแห่งสุขภาวะ) และเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาอำเภอที่ว่า”เมืองคุณธรรม ประเพณีวัฒนธรรมที่ล้ำค่า ธรรมชาติที่สวยงาม ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และน้อมนำหลักทรงงานโครงการพระราชดำริดำรงวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งในฐานะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหน่วยปฐมภูมิ(Primary care ) มีบทบาทสำคัญในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มวัยตั้งแต่การส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสภาพ ตามมาตรฐานวิชาชีพ และเป็นตัวอย่างที่ดีด้านสุขภาพ

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก