นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ทั้งประเด็นสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บอากรนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และอลูมิเนียมร้อยละ 10 จากทั่วโลก การขึ้นภาษีร้อยละ 25 สินค้าที่นำเข้าจากจีนจำนวน 1,333 รายการ ขณะที่จีนได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ร้อยละ 25 จำนวน 128 รายการ ว่าจากการที่สหรัฐฯ และจีนขึ้นภาษีระหว่างกันส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้น ประมาณ 8,000 - 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.10 - 0.25 ของมูลค่าการส่งออกของไทย เพื่อทดแทนการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ลดลง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ ยาง ผลิตภัณฑ์ยาง ข้าวสาลี พลาสติก เป็นต้น และส่งผลให้ไทยมี GDP เพิ่มขึ้น 2,022 - 5,056 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01- 0.04 ของ GDP

        ขณะเดียวกัน ไทยจะเสียประโยชน์กรณีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน ในกลุ่มสินค้าอะลูมิเนียม เหล็ก และผลิตภัณฑ์จากเหล็ก สารเคมี อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น ส่วนกรณีจีนขึ้นภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ไทยจะเสียประโยชน์ ในการส่งออกเนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ฝ้าย เป็นต้น จึงแนะนำให้ไทยมีการสร้างห่วงโซ่การผลิตของจีนกับสหรัฐฯ มากขึ้นจากปัจจุบัน รวมทั้งสร้างความร่วมมือด้านการค้า เช่น FTA ไทย-สหรัฐฯ และผลักดันความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค หรือ RCEP หรือ อาเซียน 6 ให้เป็นรูปธรรม