ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ปลายเดือนนี้ โดยที่ประชุมจะเน้นการสร้างความเข้มแข็งของอาเซียน และความมั่นคงทางไซเบอร์

วันที่ลงข่าว: 25/04/18

          พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 27-28 เมษายน 2561 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ซึ่งจะมีการรับรองเอกสารการประชุม โดยผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจำนวน 3 ฉบับ คือ วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียน เพื่ออาเซียนที่มีความเข้มแข็งและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแผนปฏิบัติการอาเซียน ว่าด้วยการป้องกันและการต่อต้านแนวความคิดหัวรุนแรงในลัทธิสุดโต่ง การแถลงการณ์ร่วมของอาเซียน เพื่อย้ำความสำคัญของกฎระเบียบทางไซเบอร์ และความจำเป็นที่จะต้องมีบรรทัดฐานทางไซเบอร์ขั้นพื้นฐาน รวมทั้งย้ำความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อเสริมศักยภาพในอาเซียน , ร่างถ้อยแถลงผู้นำอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อตระหนักถึงความจำเป็นของสมาชิกอาเซียนในการปฏิบัติตามมาตรการ ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่น และรับรองบรรทัดฐานร่วมบนพื้นฐานความสมัครใจ เพื่อให้มีพฤติกรรมรับผิดชอบในพื้นที่ Cyber เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเชื่อมั่นในการใช้พื้นที่ไซเบอร์อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เศรษฐกิจในภูมิภาค มีการบูรณาการและมั่งคั่งมากยิ่งขึ้น และร่างเอกสารแนวคิดเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน เพื่ออำนวยความสะดวก ความร่วมมือ รายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเมืองสมาชิกและผู้แทนระดับชาติ โดยร่วมกันสำรวจ แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี พัฒนาแผนปฏิบัติการเฉพาะเมือง ระหว่างปี 2561-2568 และจะทำกรอบแนวทางการดำเนินงานพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับอาเซียน รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดโครงการน่าลงทุนกับภาคเอกชน โดยเมืองสมาชิกจะได้รับการเชื่อมโยงกับบริษัทที่ให้บริการแนวทางการพัฒนาเมืองจากภาคเอกชน เพื่อที่จะเริ่มโครงการที่เป็นรูปธรรมและสามารถดำเนินการได้ในเชิงพาณิชย์โดยเร็ว

       ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ ยังมีการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 11 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย ประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้ โดยมีไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในวันที่ 28 เมษายน 2561

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก