ขอคารวะ แม่พิการแขนขาสู้ชีวิต อยากได้งานทำ หาเงินเลี้ยงลูกวัย 5 เดือน
สืบเนื่องเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า เพชรรัตน์ จันรอง ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมทั้งข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า สวัสดีครับ ผม ชื่อ ด.ช. พรพิพัฒน์ ผ่องศรีงาม ชื่อเล่น น้องเฟสบุส ครับ หนูไม่มี คุณพ่อ มีแต่คุณแม่ ตอนนี้ หนูอายุ 5 เดือน คุณแม่เป็นคนพิการไม่มีแขนทั้ง 2 ข้าง เดินไม่ได้ แม่ต้องมารับภาระเลี้ยงดูหนู แม่ไปทำงานก็ไม่ได้ ทุกวันนี้แม่ของหนูก็ใช้เงินเดือนของคนพิการที่มาชุบเลี้ยงดูหนู เงินเดือนของคุณแม่ก็ได้เดือนล่ะ 800 บาท ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ไม่เพียงพอ ขอผู้ใจบุญช่วยบริจาคค่าแพมเพิค ค่าอาหารเสริมธัญพืชและค่านมให้น้องด้วยนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ดูพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง ทั้งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ เจ้าหน้าที่องค์การบริการส่วนตำบลหนองพันทา ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ เมื่อไปถึงพบ น.ส.เพ็ญนภา ผ่องศรีงาม อายุ 21 ปี กำลังนั่งไกวเปลให้ลูกนอนอยู่บริเวณหน้าบ้านที่อยู่อาศัยเลขที่ 333 ม.4 บ.โนนแก้ว ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ของนายโสภา ผ่องศรีงาม อายุ 74 ปี ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ หลังจากพบปะพูดคุยไถ่ถามความเป็นอยู่ และสวัสดิการต่างๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ได้มอบข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็ก และผู้ใหญ่จำนวนหนึ่ง มีทั้งผ้าห่ม นม แป้ง สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น
นายนภดล เค้าสิม ผอ.ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า กรณีของ น.ส.เพ็ญนภา ผ่องศรีงาม หรือน้องแพรว ต้องทำเรื่องรายงานเสนอไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวของน้องได้กู้ยืมเงินในฐานะผู้ดูแลคนพิการมาจำนวน 40,000 บาท ซึ่งต้องไปเช็คดูว่าชำระคืนหมดหรือยัง หากชำระหมดแล้วก็สามารถกู้ใหม่ได้โดยไม่เกิน 120,000 บาท จากที่สอบถามทราบว่าพ่อของน้องแพรว เป็นคนรับผิดชอบในการชำระเงินกู้ เพื่อนำมาสร้างบ้านให้กับน้องแพรว แต่เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอสร้างได้เฉพาะโครงหลังคา จึงได้มาอยู่อาศัยกับปู่และยา ได้รับเงินคนพิการเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 800 บาท เมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 น้องแพรวได้คลอดบุตรออกมาเป็นเด็กชายสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ชื่อ ด.ช. พรพิพัฒน์ ผ่องศรีงาม หรือชื่อเล่น น้องเฟสบุส และได้ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดที่องค์การบริการส่วนตำบลหนองพันทา เมื่อวันที่ 14 พ.ย.60 แต่ยังไม่ได้รับเงินอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ ซึ่งตรงนี้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือเพื่อจะได้ค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอีก 600 บาทต่อเดือน และทาง พมจ.จะเข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง และจะหางานที่น้องสามารถทำได้อยู่กับบ้านให้จนกว่าน้องจะดำรงชีวิตได้ตามอัตภาพต่อไป
น.ส.เพ็ญนภา ผ่องศรีงาม หรือน้องแพรว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวไม่มีแขนทั้งสองข้าง ขาเล็กลีบผิดปกติ เดินไม่ได้ตั้งแต่เกิด ไปไหนมาไหนต้องนั่งรถเข็นคนพิการและต้องมีคนคอยเข็นรถให้ อายุได้ 7 ขวบพ่อแม่แยกทางกันต่างไปมี ครอบครัวใหม่ ตนเองจึงได้อาศัยอยู่กับปู่และยาที่บ้านหลังนี้ นานๆทีพ่อจะกลับมาเยี่ยมที่บ้าน เมื่อตอนอายุ 15 ปี ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนศรีสังวาล ขอนแก่น ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับผู้พิการ ทำให้ตนสามารถอ่านและเขียนหนังสือได้โดยใช้เท้าทั้ง 2 ข้างช่วยประคอง หลังจากจบ ป.6 ก็ได้ไปทำงานที่จังหวัดหนองคาย เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์nter และจิตอาสาได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ต่อมาได้คบหากับพ่อของเด็กโดยผ่านทางเฟสบุ๊ค คบกันประมาณ 4-5 เดือน ตนตั้งท้องฝ่ายชายไม่รับผิดชอบบอกให้ไปทำแท้ง ตนรับไม่ได้จึงเลิกรากัน และกลับมาอยู่กับปู่และย่าจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้ตนไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ มีเงินค่าคนพิการเดือนละ 800 บาทซึ่งไม่พอค่าใช้จ่ายทั้งนมผงสำหรับลูกที่โตขึ้นทุกวัน และค่าอาหารที่เพิ่มขึ้น ปู่กับย่ามีอาชีพทำนา กรีดยางพารา และสานกระติบข้าวขาย พอได้เงินมาบ้าง แต่ตนเองก็ไม่นิ่งนอนใจสิ่งไหนที่ช่วยได้ก็ทำ ทั้งอาบน้ำ ให้นมลูก ไกวแปลกล่อมลูกนอน กินข้าว กินน้ำเองได้ แต่บางอย่างก็ต้องมีคนคอยช่วย สิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือคือเรื่องของงานสำหรับคนพิการ ที่สามารถทำได้ภายในบ้าน เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระของปู่กับย่า หรือผู้ใจบุญจะช่วยบริจาคเป็น แพมเพิค นมผง อาหารเสริมธัญพืชต่างๆให้น้องด้วยก็ได้ และอยากจะได้รถเข็นที่สามารถไปมาได้สะดวก
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถโทรประสานได้ที่ 087-8669176 ปู่โสภา หรือโทร 063-6286473 น้องแพรว หรือผู้ใจบุญที่จะช่วยสามารถโอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายให้กับ 2 แม่ลูกได้ที่ บัญชีเลขที่ 020006929543 ธนาคาร.ธกส.สาขาโซ่พิสัย ชื่อนางสาวเพ็ญนภา ผ่องศรีงาม ที่อยู่ 333 หมู่4 บ.โนนแก้ว ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ 38170
ซึ่งระหว่างการพบปะพูดคุย น.ส.เพ็ญนภา ผ่องศรีงาม หรือน้องแพรว ยังได้สาธิตการใช้เท้าทั้งสองข้าง ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเทน้ำให้เจ้าหน้าที่ที่มาเยี่ยมได้กิน การป้อนนมลูก การกินข้าวเอง เขียนหนังสือด้วยเท้า และการใช้โทรศัพท์ เป็นต้น