วันที่ 18 เม.ย.61  เวลา 08.30 น. พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 60/2561 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคม ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวง ร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

          จากกรณีเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า 70 หลัง นั้น ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ (พมจ.อุตรดิตถ์) พร้อมทีม One Home ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน ตามภารกิจของกระทรวง พม. โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ทั้งนี้ หากประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหา และต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง และติดต่อหน่วยงานในพื้นที่ของกระทรวง พม.

         กรณีหญิงชราวัย 82 ปี พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง และเป็นโรคหัวใจโต แต่ต้องรับภาระดูแลหลานสาววัย 35 ปี ที่ป่วยเป็นโรคสมองโตตั้งแต่กำเนิด พิการเดินไม่ได้ อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการใช้ประทังชีวิต ซึ่งมีรายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่กรุงเทพมหานคร และกรณีหญิงชราวัย 60 ปี ต้องรับภาระดูแลพี่ชายวัย 66 ปี ที่พิการเป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และแม่แก่ชราวัย 98 ปี ที่พิการตาบอด อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการใช้ประทังชีวิต ครอบครัวมีฐานะยากจน รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย ที่จังหวัดร้อยเอ็ด นั้น ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด (พมจ.ร้อยเอ็ด) พร้อมทีม One Home ทั้ง 2 จังหวัด และศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของทั้ง 2 ครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุ และคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของผู้ที่ป่วยทั้งหมดอย่างใกล้ชิด และการให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคมเพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมาย ตามความเหมาะสม รวมถึง การส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่หญิงชราวัย 60 ปี เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป