ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ศูนย์อาเซียนศึกษา ม.อ. จัดระดมสมองทำแผนเพิ่มนักท่องเที่ยวจากอาเซียนใต้

วันที่ลงข่าว: 29/03/18

          ศูนย์อาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา และสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ กำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมสมอง จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ “โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียและอาเซียนใต้” สำหรับจังหวัดชายแดนใต้เน้นจังหวัดสงขลาและสตูล เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซีย โดยจะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ 8 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกจะจัดในวันพุธที่ 4 เมษายน 2561 ที่ห้องประชุม 210 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อวิเคราะห์แผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อการพัฒนางานด้าน ความปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว และด้านโลจิสติกส์สำหรับการท่องเที่ยว โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหาร นักปกครอง นักวิชาการ หน่วยงานใน 5 จังหวัดภาคใต้ ที่เกี่ยวข้องกับด้านความมั่นคง การท่องเที่ยว การขนส่ง และกงสุล

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพัตรา เดวิสัน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายอาเซียนศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของไทย มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและทรัพยากรการท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยหลายๆด้าน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการพัฒนาการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาในเรื่องการขาดองค์ความรู้ ข้อมูลเชิงลึก และเชิงวิเคราะห์ ซึ่งมีความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะในแถบอาเซียนตอนใต้ ซึ่งมีประชากรอยู่หนาแน่น

          “ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศเดียวมีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรอาเซียนทั้งหมด แต่หลายปีที่ผ่านมา แนวโน้มของนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียมีอัตราที่ลดลงจาก ปี 2555-2556 โดยลดจาก 53,480 คน เหลือเพียง 12,098 คน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการยกเลิกสายการบินตรงจากประเทศอินโดนีเซีย มายังอำเภอหาดใหญ่ ประเทศไทย และอัตราการแข็งขันที่สูงมาก การพัฒนาบนฐานของข้อมูลที่มีคุณภาพ ทันสมัย จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวและบริการของกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ และของประเทศไทยในภาพรวม” ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายอาเซียนศึกษา กล่าว

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก