ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

มหาบัณฑิตพิการไร้แขนกับหัวใจไม่เคยยอมแพ้ คว้าปริญญาโทนิติศาสตร์ รามคำแหง

วันที่ลงข่าว: 26/03/18

          แม้กายไร้แขนจะชูชัน ไร้มือจะหยิบจับ ชีวิตถูกกำหนดให้มีสิ่งที่เพรียกพร้อมที่สุดคือ “หัวใจ” หญิงสาวชาวหนองบัวลำภูใช้หัวใจฟันฝ่าทุกอุปสรรค วิ่งเข้าหาโชคชะตาที่เธอต้องการกำหนดเอง จนในวันนี้ วันที่สังคมต่างชื่นชมและยอมรับในความสามารถของมหาบัณฑิตไร้แขน ผู้วาดฝันความสำเร็จให้ตนเองถึงที่สุด

          พัชรมณฑ์ เสวะนา คว้าปริญญาใบที่ 2 ในฐานะมหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์ยื่นปริญญาบัตรให้ที่ซอกคอ โดยไม่ถือพระองค์  เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร รุ่นที่ 43 พร้อมกับเพื่อนบัณฑิตหลายพันคน นับเป็นความปลื้มปิติและเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่บัณฑิตและมหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างหาที่สุดมิได้

ในโอกาสที่น่ายินดีเช่นนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไม่เอ่ยยกย่องความกล้าแกร่งของหญิงสาวที่พยายามทำตามความฝันด้วยสองเท้า พัชรมณฑ์ เริ่มต้นทางการศึกษาช้ากว่าคนอื่นหลายปี ด้วยเหตุผลทางร่างกายที่มีไม่ครบอย่างใครอื่น ทำให้ถูกปฏิเสธจากโรงเรียน ทำให้ต้องศึกษาด้วยตนเอง ไปพร้อมกับฝึกฝนใช้เท้าเขียนหนังสือจนถึงอายุ 23 ปี และเรียนจบปริญญาโทด้วยวัย 37 ปี

         พัชรมณฑ์ ใช้เวลาเรียนระดับชั้นประถมศึกษา 1-6 เพียง 2 ปีเท่านั้น และศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตามหลักสูตร 6 ปี ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ความฝันและความใฝ่เรียนของเธอไม่ได้หมดเพียงเท่านั้น เพราะหลังจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย เธอสมัครเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ที่ ม.รามคำแหง สาขาวิทยบริการฯจังหวัดหนองบัวลำภู โดยเลือกเรียนวิชานิติศาสตร์ตามความฝันของพี่สาวคนโตที่เสียชีวิต และเมื่อเธอได้สัมผัสการเรียนบทใหม่ เธอเล็งเห็นความสำคัญและกลายเป็นเป้าหมายที่เธอพยายามคว้าจนสำเร็จ

          “การได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน เป็นเหมือนความฝันสูงสุดในชีวิต เป็นนาทีที่ตื่นเต้นและปลื้มจนแทบปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ยิ่งมองย้อนกลับไปดูความพยายามของตัวเองจากวันแรกจนถึงวันนี้ อาการอยากร้องไห้ก็จุกอกไปหมดตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่ ก็ไม่มีสิทธิ์กำหนดชีวิตตัวเองแล้ว ด้วยโรคประจำตัวของคุณแม่อย่างโรคเบาหวาน ทำให้ต้องฉีดยา และผลข้างเคียงคือเราออกมาพิการ แต่อย่างนั้นแล้ว การใช้ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป โดยคุณแม่ให้ฝึกใช้เท้าเขียนตั้งแต่เด็ก และเท้าคู่นี้ที่คุณแม่เริ่มหัดให้วันนั้น ก็สำเร็จได้ถึงวันนี้”

           แม้วันนี้ พัชรมณฑ์ จะดำเนินชีวิตด้วยสองเท้าของตัวเอง และพี่สาวคนกลางเท่านั้น ความโศกเศร้าจากการสูญเสีย ไม่ได้บั่นทอนหัวใจของเธอให้อ่อนแอลง เธอได้ใช้ความสามารถขีดเขียนด้วยเท้าจากการพร่ำสอนของคุณแม่ ความฝันด้านนิติศาสตร์ของพี่คนโต มาใช้ในการพัฒนาตัวเองให้ก้าวขึ้นไปเรื่อย ๆ

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ วันที่ 22 มีนาคม 2561
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก