วันนี้ (8 มี.ค. 61) เวลา 08.30 น. นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 44/2561 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคม ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวง ร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

          จากกรณีหญิงวัย 52 ปี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก่อเหตุใช้สายไฟรัดคอลูกสาววัย 27 ปี ที่มีอาการผิดปกติทางสมอง จนเสียชีวิต และผูกคอฆ่าตัวตายตาม ทิ้งให้หลานสาว 2 คน วัย 6 ขวบ และ 9 ขวบ ต้องกำพร้า ที่จังหวัดตรัง นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง (พมจ.ตรัง) พร้อมทีม One Home เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและเยาวชนของกระทรวง พม. พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กทั้ง 2 คนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติในสังคม อีกทั้ง ประสานหน่วยงานในพื้นที่ในการติดตามหาญาติของเด็กเพื่อมารับเด็กไปดูแลต่อ ซึ่งระหว่างนี้ ทางกระทรวง พม. มีหน่วยงานในสังกัด คือ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง พร้อมรับเด็กเข้ามาอยู่ในความดูแลและคุ้มครองสวัสดิภาพ อีกทั้งร่วมกันหาแนวทางการช่วยเหลือดูแล และคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็ก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ต่อไป

          อีกกรณีหญิงชราวัย 63 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเต้านม มีบาดแผลพุพองขนาดใหญ่ทั่วร่างกาย นอนป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อาศัยอยู่กับลูก 3 คน ซึ่ง 2 คน ต้องลาออกจากงานเพื่อมาอยู่ดูแลผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด เหลือลูกเพียงคนเดียวที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งครอบครัวมีฐานะยากจน รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย ที่ย่านสายไหม กทม. และกรณีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ป่วยเป็นโรคไวรัสขึ้นสมอง แพ้ภูมิตัวเอง กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการชักเกร็งตลอดเวลา นอนป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องเจาะคอและให้อาหารทางสายยาง อาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ เนื่องจากต้องอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด มีเพียงผู้เป็นพ่อที่ต้องทำงานหารายได้จุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว ไม่มีเงินเพียงพอค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่จังหวัดลพบุรี นั้น ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมทีม One Home ทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และลพบุรี เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของทั้ง 2 ครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุและเด็กของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วย ของผู้ป่วยทั้งหมดอย่างใกล้ชิด และคอยลงพื้นที่เยี่ยมบ้านติดตามเฝ้าดูอาการอย่างเป็นระยะ อีกทั้งให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำปรึกษาในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามความเหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมการประกอบอาชีพ แก่ทั้ง 2 ครอบครัว เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

          สำหรับการติดตามความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและประสบปัญหาทางสังคมตามภารกิจกระทรวง พม. มีดังนี้ 1) กรณีหญิงวัย 56 ปี ป่วยเป็นโรคน้ำท่วมสมอง พูดไม่ได้ นอนป่วยติดเตียง ที่จังหวัดนครปฐม นั้น ทางทีม One Home ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการ พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ และ 2) กรณีชายวัย 46 ปี ก่อเหตุพยายามจะกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย พร้อมลูกสาววัย 8 ขวบ ที่จังหวัดอุดรธานี นั้น ทางทีม One Home ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน พร้อมเร่งเยียวยาสภาพจิตใจ และให้กำลังใจเด็กหญิงและครอบครัว พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน รวมทั้ง ให้การช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป