ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จ.บุรีรัมย์ ประกอบพิธีถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ

วันที่ลงข่าว: 05/03/18

          วันที่ 2 มี.ค. 61  เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ต.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างในสังกัดกระทรวงแรงงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และกลุ่มพลังมวลชน ประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เนื่องในวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ 2 มีนาคม 2561 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

          ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 กำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปี เป็นวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และทูลเกล้าขอพระราชทานถวายพระราชสมัญญาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการช่างอันเป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ทรงประดิษฐ์ของเล่น เมื่อครั้งทรงพระเยาว์วัย จนถึงเรือใบที่ทรงใช้แข่งขันในกีฬาแหลมทอง กังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนทรงตั้งโรงเรียนพระดาบส เพื่อสอนวิชาชีพให้แก่เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสทั่วไป ทรงพระราชทานพระราชดำรัส เกี่ยวกับการช่างของไทยเมื่อครั้งเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสรโรตารี่ กรุงเทพใต้ ณ ลุมพินีสถาน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 ความตอนหนึ่งว่า “ช่างทุกประเภทเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการ หรือสิ่งต่างๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่าง จึงสมควรได้รับความเอาใจใส่ สนับสนุนจากทุกๆ ฝ่าย ในการส่งเสริมนั้นมีปัญหาเรื่องฝีมือ ซึ่งจะต้องปรับปรุง ให้มีความประณีตและประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริงๆ”

          กระแสพระราชดำรัสดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกล ที่มีพระราชดำริถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ที่มีบทบาทสำคัญต่อทุกคนในสังคม กระทรวงแรงงานจึงได้น้อมนำใส่เกล้าไปปฏิบัติในการพัฒนากำลังแรงงานของไทย ให้มีฝีมือ ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และมาตรฐานสากล พร้อมทั้งมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ พัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ ตลอดจนสร้างความเชื่อมันของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย รองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและประชาคมโลกในอนาคต

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก