ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ขนส่งจังหวัดน่าน จัดโครงการ Hapnpiness for All ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัยให้ทุกคน ปี 2 เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชน ผู้ประสบภัย

วันที่ลงข่าว: 27/02/18

          ที่โรงแรมเทวราช อำเภอเมือง จังหวัดน่าน นายวรกิตติ ศรีทิพากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการ Happiness for All ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัยให้ทุกคน ปีที่ 2พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเพื่อช่วยเหลือผู้พิการในจังหวัดน่านจำนวน 25 ราย โดยมีนายมานะชัย ทองเนื้อดี รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดน่าน เป็นผู้กล่าวรายงาน ความเป็นมาของโครงการ ทางการขนส่งทางบกได้เล็งเห็นความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือผู้พิการ เพื่อให้เขาสามารถช่วยเหลือตนเองและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ เพื่อสนองนโยบายในการมอบของขวัญให้แก่ประชาชนกรมการขนส่งทางบกจึงขอมอบความสุขให้แก่ผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้กนน ด้วยการมอบอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสามารถทำให้ผู้พิการกลับมาดำเนินชีวิและอยู่ในสังคมได้ดีขึ้น

การมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนนเป็นกิจกรรมที่กรมขนส่งทางบกจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของเงินที่ได้จากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถซึ่งสามารถนำไปสร้างสุขความสุขสร้างคุณประโยชน์ให้กับคนอื่นและสังคมได้อย่าง มากมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้ทราบถึงความห่วงใยความใส่ใจต่อผู้พิการ ของกรมการขนส่งทางบกกระทรวงคมนาคม เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจในการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมทั้งเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคำนึงถึงความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น สำหรับปีงบประมาณพ. ศ. 2560 กรมการขนส่งทางบกได้อนุมัติจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการทั่วประเทศจำนวน 1,90 2 รายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 90,2 49,000 บาท (เก้าสิบล้านสองแสนสี่หมื่นเก้าพันบาทถ้วน) ทั้งนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดน่านได้รับอนุมัติจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจำนวน 25 รายรวมเป็นเงิน 1,174,000 บาท(หนึ่งล้านหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสี่พันบาทถ้วน) โดยมีอุปกรณ์ที่ให้ความช่วยเหลือดังนี้ 1 ขาเทียมระดับเหนือเข่าจำนวน 4 ราย 2 ขาเทียมระดับใต้เข่าจำนวน 1 ราย 3 เตียงนอนพร้อมที่นอนลมป้องกันแผลกดทับจำนวน 1 ราย 4 รถนั่งไฟฟ้าพร้อมเบาะรองนั่งป้องกันแผลกดทับจำนวน 6 ราย 5 รถนั่งธรรมดาพร้อมเบาะรองนั่งป้องกันแผลกดทับจำนวน 13 ราย

ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้รับรู้ว่าภาครัฐไม่ทอดทิ้งและไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนับว่าเป็นการคืนความสุข การให้กำลังใจรวมถึงสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประสบภัยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้นและสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก