ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ : เปิดร้านกาแฟคนพิการ (ออทิสติก) ต้นแบบวิสาหกิจและแหล่งเรียนรู้ให้กับบุคคลออทิสติก

วันที่ลงข่าว: 26/02/18

          กระทรวงแรงงาน ร่วมกับบริษัทเอกชน และมูลนิธิออทิสติกไทย เปิดร้านกาแฟคนพิการ (ออทิสติก) หวังเป็นต้นแบบวิสาหกิจและแหล่งเรียนรู้ให้กับบุคคลออทิสติก เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนพิการอย่างยั่งยืน

กระทรวงแรงงาน บูรณาการทำงานกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเครือข่ายภาคีอื่น ๆ ตามแนวทางประชารัฐอย่างต่อเนื่อง โดยมีภารกิจสำคัญในหลายด้าน รวมทั้งการสนับสนุนให้คนพิการมีอาชีพ มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกกลุ่มเป้าหมายให้เดินหน้าไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าเพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้พิการที่จดทะเบียนทั่วประเทศกว่า 1,800,000 คน ให้ได้ทำงานตามความสามารถและความถนัด กระทรวงแรงงานจึงร่วมกับบริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด และมูลนิธิออทิสติกไทย เปิดร้านกาแฟ “ฟอร์ ออล คอฟฟี่” สาขากระทรวงแรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณโรงอาหารกระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร โดยให้คนพิการ (ออทิสติก) ที่ผ่านการฝึกอบรมเป็นผู้จำหน่ายพร้อมมีพี่เลี้ยงเป็นที่ปรึกษาและคอยดูแลระหว่างการขาย ซึ่งทำงานประจําร้าน จํานวน 3 - 5 คน สับเปลี่ยนหมุนเวียนคนพิการรายอื่นให้เข้ามามีโอกาสทดลองขายกาแฟและเครื่องดื่ม เพื่อสร้างโอกาสให้คนพิการได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และเป็นการต่อยอดให้สามารถประกอบอาชีพได้เองในอนาคต

          ขณะที่ นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย กล่าวว่ามูลนิธิออทิสติกไทยดูแลครอบครัวคนพิการรวมกว่า 7,000 ครอบครัว ปีที่ผ่านมาฝึกอบรมผู้พิการแล้ว 300 คน ซึ่งร้าน “ฟอร์ ออล คอฟฟี่ สาขากระทรวงแรงงาน” เป็นร้านกาแฟคนพิการ (ออทิสติก) แห่งแรก และจะเปิดอีกสาขาที่ 2 ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งเตรียมเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 5 จังหวัดในส่วนภูมิภาค ผู้พิการจะได้รับค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 9,300 บาท หรือตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงมีสวัสดิการต่าง ๆ ค่าตอบแทนตามผลกำไร โบนัส สวัสดิการตามระบบประกันสังคม นอกจากนี้ คนพิการ (ออทิสติก) ยังมีความสามารถทำงานด้านอื่นได้ เช่น พนักงานออฟฟิศ งานพิมพ์เอกสาร ซึ่งมีฝึกอบรมไว้แล้วประมาณ 50 คน หากนายจ้างต้องการ ก็สามารถติดต่อมาที่มูลนิธิได้ทันที

        ด้านความรู้สึกของพนักงานประจำร้าน นางสาวมัทรี ขำมะโน อายุ 24 ปี กล่าวว่าแม้จะเป็นออทิสติกแต่ได้พยายามใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ก่อนหน้านี้เคยทำงานธุรการ ได้รับเงินเดือน 15,000 บาท แต่มักถูกถามบ่อย ๆ ว่าเป็นออทิสติกหรือไม่ เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นคนพิเศษ หลังออกจากงานเคยไปสมัครงานร้านกาแฟแต่ไม่ผ่านการทดลองงาน วันนี้รู้สึกมีความสุขที่ได้มาเป็นบาริสต้า ชงกาแฟ เพื่อนร่วมงานดีทุกคน ทำงานร้านกาแฟต้องจำสูตรให้ได้ เพราะคนออทิสติกไม่สามารถเขียนได้จึงจะใช้วิธีการจดจำอย่างเดียว หากสิ่งไหนไม่เข้าใจจะปรึกษาครูฝึก จึงขอให้กำลังใจเพื่อน ๆ อย่าท้อแม้บางคนจะดูถูก อย่าไปสนใจ ขอให้ทำหน้าที่หรือทำงานให้ดีที่สุด ให้เห็นว่าคนออทิสติกก็มีความสามารถ มีอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้

         อย่างไรก็ตาม คนพิการที่เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนพิการที่ได้รับโอกาสการทำงานในสังคม แต่ยังมีคนพิการอีกจำนวนมากที่ขาดโอกาสต่าง ๆ มากมาย ประชาชนทุกคน รวมถึงทุกภาคส่วน มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย โดยการหันมาให้สำคัญกับคนพิการอย่างเท่าเทียม สร้างโอกาสและพื้นที่การทำงาน หากทุกคนร่วมมือกันเชื่อว่าจะส่งผลให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก