วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ที่วัดพุพลู หมู่ที่ 3 ตำบลยางน้ำกลัดใต้ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรีจัดโครงการ เพชรบุรีเข้มแข็ง รัก เทิดทูน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’’ โดยมี นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ ‘’ ร่วมด้วยนายกฤษฎา แก้วสองเมือง ปลัดจังหวัดเพชรบุรี นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอหนองหญ้าปล้อง เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด, หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ/องค์กรเอกชน,หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนผู้รับบริการ ผู้ด้อยโอกาส คนชรา คนพิการ คนยากไร้ เข้าร่วม

          ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้พูดคุยกับผู้เข้าร่วมว่ารู้สึกยินดีที่ได้มาพบกับประชาชนในพื้นที่ วันนี้หน่วยงานต่างๆได้ออกหน่วยบริการประชาชนถึงที่เพื่ออำนวยความสะดวกและยังได้รับฟังปัญหาความเดือนร้อนและรับรู้ความต้องการของประชาชนถึงพื้นที่ เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข นอกจากนี้ได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้กับตัวแทนหมู่บ้านเป้าหมาย มอบเงินสวัสดิการแก่เด็กนักเรียนยากจน จำนวน 20 ราย มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้ด้อยโอกาส คนชรา ผู้พิการ คนยากไร้และออกเยี่ยมบูธที่หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน จากนั้นได้ออกเยี่ยมครัวเรือนที่ประสบความสำเร็จโดยมอบพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประกาศเกียรติคุณ เยี่ยมครัวเรือนยากจนด้อยโอกาส 2 ครัวเรือน และได้มอบพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเงินสงเคราะห์ให้แก่ครัวเรือน รวมทั้งพูดคุยสอบถามด้วยความเป็นกันเองและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือตามสิทธิ

          อำเภอหนองหญ้าปล้อง มีเขตการปกครอง 4 ตำบล คือ ต.หนองหญ้าปล้อง ต.ยางน้ำกลัดเหนือ ต. ยางน้ำกลัดใต้ และ ต.ท่าตะคร้อ มีประชากรทั้งสิ้น 16,040 คน 6,465 หลังคาเรือน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำไร่ ทำสวน เป็นอาชีพหลัก ปัญหาคือการบุกรุกพื้นที่ของราษฎร โดยอ้างสิทธิในการอยู่อาศัยและที่ทำกินมาก่อนประกาศ เป็นเขตป่าไม้หรือเขตอุทยาน การแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของราษฎร จะใช้แนวทางการผสมผสานตามแนวทางพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อยกระดับอาชีพ และรายได้ของประชากร ให้เป็นอยู่แบบพอเพียง

          โครงการ “เพชรบุรีเข้มแข็ง รัก เทิดทูน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” เป็นการช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้สะดวก รวดเร็ว และเป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปติดต่อราชการเพื่อขอรับบริการ รวมทั้งลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในภาวะเศรษฐกิจปันจุบัน