ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ : อุ่นไอรัก คลายความหนาว

วันที่ลงข่าว: 13/02/18

การจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว นับตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมบันทึกภาพประวัติศาสตร์ไทยในอดีตด้วยความอิ่มเอมใจ

          จากพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงหมายมั่นจะทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ จึงทรงมีพระราชดำริที่จะให้ประชาชนได้มีความสุข ความรื่นเริงและรำลึกถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ฯ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” พระราชทานความสุขให้แก่ประชาชนและเผยแพร่ความงดงามความเป็นไทยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า นับตั้งแต่เปิดกิจกรรมในวันที่ 8 กุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ ถือว่ากิจกรรมได้รับการตอบรับจากประชาชนจากทั่วทุกสารทิศที่ต่างมุ่งหน้าเดินหน้ามาร่วมกิจกรรมภายในงานจำนวนมาก ภาพบนสื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างๆ เต็มไปด้วยภาพของบรรยากาศการร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุขและอิ่มเอมใจ

          ภายในพื้นที่จัดงานที่แวดล้อมไปด้วยดอกไม้นานาชนิดนั้น นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บอกเล่าว่า การจัดงานแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลัก คือในส่วนของพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตกแต่งสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 มีการจัดสวนพันธุ์ไม้และน้ำพุ งานประดิษฐ์ตามศิลปะไทยแบบชาววัง ส่วนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ รวมทั้งมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลงและโซนร้านอาหารและร้านค้า ตามแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย เมื่อเดินเข้าไปจะมีซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อยนานาชนิด

          “ในโซนที่ 2 จะมีการแสดงจะมีเวทีใหญ่ มีลิเก มีงิ้ว ในวันธรรมดาจะมีเยาวชนต่างจังหวัดเดินทางมาหมุนเวียนมาจัดแสดงซึ่งพระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณให้จัดประกวดและพระราชทานรางวัล มีหนังย้อนยุคหนังกลางแปลงฉายแบบจอม้วน ด้านนอกเป็นบรรยากาศของพระมหากรุณาธิคุณในหลวงทั้ง 2 พระองค์ รวมถึงกำเนิดหน่วยงานสำคัญของไทย เช่น ไปรษณีย์ ประปา ไฟฟ้า ธนาคาร สิ่งสำคัญที่สุดของการจัดงานคือความร่วมแรงร่วมใจ มีหน่วยงานราชการภาคเอกชนมาร่วมกันจิตอาสาทุกคนมาด้วยความเต็มใจ อยากเชิญชวนให้มาเยี่ยมชม เดินเข้ามาเหมือนกับเดินในยุคเก่า เป็นอะไรที่ดีมากๆ” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้ทุกวันจนถึงวันที่ 11 มีนาคม เริ่มเข้างานตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 21.00 น. ยกเว้นช่วงวันศุกร์และเสาร์ที่เปิดงานจนถึงเวลา 22.00 น. แบบไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู โดยเตรียมบัตรประชาชนมาแสดงก่อนเข้างาน ส่วนชาวต่างชาติแสดงพาสปอร์ตได้ หากใครที่ไม่มีชุดไทยหรือผ้าไทยใส่ ก็สามารถใส่ชุดสุภาพเรียบร้อยเข้ามาร่วมงาน หรือจะมาเช่าชุดไทยใส่ได้ที่บูธของ ททท. อีกทั้งยังมีบริการรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ ที่จุดคัดกรอง หากนำรถมาต้องไปจอดภายในสวนสัตว์ดุสิต สนามม้านางเลิ้ง กองสลากเก่า สนามหลวงฝั่งทิศเหนือ ซึ่งจะมีรถบริการรับส่งจากสนามหลวง หน้ากองฉลากเก่าและสนามม้านางเลิ้ง รวมถึงจุดรับส่งสวนจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และวงเวียนใหญ่มายังบริเวณงาน

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก