ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.ประชุมช่วยประชาชนที่ประสบปัญหาทางสังคม และกำชับทีม One Home ทั่วประเทศ ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่ประสบภัยหนาว

วันที่ลงข่าว: 20/12/17

          วันที่ 19 ธ.ค. 60  เวลา 08.30 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า นางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.)เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 7/2561เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าวโดยมีคณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ

          นางไพรวรรณ กล่าวว่า จากกรณี ชายวัย 51 ปี ที่พิการทางการเคลื่อนไหว แขนและขาด้วน อาศัยอยู่เพียงลำพังแต่สู้ชีวิต ด้วยการพยายามฝึกช่วยเหลือตนเองทุกอย่าง ทั้งทำอาหาร ทำงานบ้าน เขียนหนังสือ แต่ที่ยากลำบากที่สุดคือ การเดินทาง โดยอาศัยเพียงเบี้ยยังชีพคนพิการใช้ประทังชีวิต ด้านเจ้าตัวเผยว่าอยากได้รถวีลแชร์ไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ไม่ต้องรบกวนเพื่อนบ้าน ที่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นั้น ตนขอชื่นชมชายคนดังกล่าวที่มีความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่น เพื่อพัฒนาตนเอง ถึงแม้มีอุปสรรคทางร่างกายแต่ไม่ย่อท้อ และไม่นำมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต น่ายกย่องเป็นแบบอย่างที่ดีของคนพิการสู้ชีวิต ทั้งนี้ ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท (พมจ.ชัยนาท) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของชายดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลชายคนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือในเรื่องการหารถวีลแชร์ไฟฟ้า และการแนะนำให้คำปรึกษาในเรื่องของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อใช้เป็นทุนสำหรับการประกอบอาชีพในระยะยาวต่อไป

          นางไพรวรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณี เด็กชายวัย 11 ขวบ ป่วยหลายโรครุมเร้า ทั้งโรคไตอักเสบเฉียบพลัน และโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาศัยอยู่เพียงลำพังกับผู้เป็นแม่ ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บ่อยครั้งที่ต้องหยุดเรียนเพื่ออยู่ดูแลแม่ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดสิงห์บุรี และกรณีชายวัย 38 ปี ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูลูกหลายคน อีกทั้งลูกชายคนเล็กวัย 9 ขวบ ยังมีสติไม่สมประกอบ ชอบเดินหนีหายออกจากบ้านจึงจำเป็นต้องขังไว้ในกรงนานกว่า 5 ปี เนื่องจากชายคนดังกล่าวต้องออกไปรับจ้างทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงคนเดียว ด้านภรรยาได้ขอแยกทาง ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดกระบี่ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ พมจ.สิงห์บุรี และ พมจ.กระบี่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษพยาบาลอาการป่วยของผู้ที่ป่วยอย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของเด็กชายดังกล่าวในระยะยาว รวมทั้งให้คำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคมเพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมาย และการให้คำแนะนำปรึกษาแก่ 2 ครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้

          นางไพรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศในหลายพื้นที่เริ่มเย็นลง ซึ่งอากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม จึงได้กำชับทีม One Home ทุกจังหวัด เฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่กลุ่มเป้าหมายของกระทรวง ทั้งนี้ หากประชาชนที่ประสบภัยหนาว ต้องการขอความช่วยเหลือสามารถโทรแจ้ง ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก