รมว.พม. กำชับ จนท. เร่งช่วยเหลือชายชราวัย 80 ปี ที่ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ต้องรับจ้างทำงาน เพื่อหารายได้เลี้ยงดูภรรยาวัย 63 ปี ที่ร่างกายพิการเป็นอัมพาต ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่ จ.ราชบุรี พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.ปราจีนบุรี 

วันนี้ (23 พ.ย. 60) เวลา 08.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 760/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีชายชราวัย 80 ปี ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ต้องออกไปรับจ้างทำงานทั่วไป เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว และเลี้ยงดูภรรยาแก่ชราวัย 63 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุจนร่างกายพิการ เป็นอัมพาต มากว่า 13 ปี ซึ่งมีแผลกดทับลึกถึงกระดูก ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอค่ารักษาพยาบาล ทั้ง 2 ชีวิต อาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี และกรณีชายวัย 54 ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูแม่แก่ชราวัย 78 ปี ที่พิการตาบอด 1 ข้าง และเดินไม่ได้ และพ่อเลี้ยงแก่ชราวัย 78 ปี ที่พิการตาบอด 1 ข้าง ทั้ง 3 ชีวิต อาศัยในกระท่อมสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง หลังคารั่วไม่สามารถกันฝนได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ พมจ.ราชบุรี และ พมจ.ปราจีนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุและคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของผู้สูงอายุที่ป่วยทั้งหมดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรง และถูกสุขลักษณะเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุและคนพิการ รวมทั้ง การให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม อีกทั้ง ให้คำแนะนำแก่ทั้ง 2 ครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป