ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สกอ.เตรียมแก้ไขการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2553 พร้อมเพิ่มเงินอุดหนุนใน 2 กลุ่มสาขา เพื่อยกระดับมาตราฐานคุณภาพการศึกษาของคนพิการให้ดียิ่งขึ้น

วันที่ลงข่าว: 20/11/17
        นายชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เตรียมแก้ไขปรับปรุงแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการในระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2553 เพื่อลดปัญหาและอุปสรรที่เกิดขึ้นจากความต้องการเข้าไปศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนมากขึ้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงจึงเป็นภาระของผู้พิการ และ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนได้เปิดรับคนพิการเข้าไปศึกษาเป็นจำนวนมาก เกินขีดความสามารถและความพร้อมในการรองรับซึ่งส่งผลต่อมาตรฐานและคุณภาพ ดังนั้น สกศ. จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง และได้กำหนดการควบคุมมาตราฐานคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาที่จะขอรับการอุดหนุน
        ส่วนการเปลี่ยนแปลงการอุดหนุน สกศ. ยังให้การอุดหนุน ค่าเล่าเรียน ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามเดิมในอัตราที่จ่ายจริง โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ สาขาสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ทั้งนี้หากเป็นสาขาที่ขาดแคลนหรือเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เช่น บัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สารสนเทศ ภาษาต่างประเทศ เป็นต้น จะได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 60,000 บาท/คน/ปี และหากเป็นสาขาอื่น เช่น สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ จะได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 50,000 บาท/คน/ปี สาชาศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จะได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 70,000 บาท/คน/ปี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 70,000 บาท/คน/ปี และ สาขาเกษตรศาสตร์ ได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 70,000 บาท/คน/ปี
        นอกจากนี้ สกศ. ได้เพิ่มเงินอุดหนุนใน 2 กลุ่ม สาขา ได้แก่ กลุ่มสาธารณะสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ จากเดิมอุดหนุนในอัตรา 80,000 บาท/คน/ปี เพิ่มเป็น 90,000 บาท/คน/ปี และสาขาแพทย์ศาสตร์ สัตว์แพทย์ศาสตร์ และทันตแพทย์ศาสตร์ จากเดิมอุดหนุนปีละ 150,000 บาท/คน/ปี เพิ่มเป็น 200,000 บาท/คน/ปี ซึ่งการปรับปรุง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวเป็นการปรับตามสภาพจริงที่เกิดขึ้น ส่วนการใช้จ่ายในการอุดหนุนในประกาศของคณะกรรมการฯ ได้กำหนดให้ทางสถาบันอุดมศึกษา ดำเนินการขอรับเงินอุดหนุนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาภายในระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม หลักจากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเสร็จ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาลงนามในประกาศซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที
 
ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก